playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Foundation (Apple TV) สถาบันสถาปนา ซีรีส์จากนิยายไซไฟดีที่สุดของ ไอแซค อาสิมอฟ (อัพเดทตอน 1-10 ตอนจบ)

สรุป

สถาบันสถาปนา สร้างจากนิยายชุดดีที่สุดของ ไอแซค อาสิมอฟ แฟนๆ ไซไฟห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง มีการปรับบทและเพศตัวละครเพื่อความทันสมัย เคารพต้นฉบับนิยายที่มีบทแอ็กชั่นไม่เยอะ เน้นพูดคุย เจรจา วางแผน เป็นหลัก ซึ่งซีรีส์ก็ยังไม่ได้เพิ่มบทแอ็กชั่นขึ้นมาเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่แฟนนิยายมาก่อนอาจจะดูยากนิดหน่อย

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
2.75 (4 votes)

Pros

  • บทพูดกระชับกว่าในนิยาย เดินเรื่องเร็ว
  • โปรดักชั่นดีเยี่ยม CG อลังการ
  • แคสติ้งตัวละครได้ดี
  • เล่นกับช่องว่างในนิยายได้ดีและน่าติดตาม
  • การปรับเพศตัวละครถือว่าพอใช้ได้ เพราะนิยายดั้งเดิมมีความสนองนี้ดผู้ชายสูงมาก
  • เล่าพาร์ทร่างโคลนของจักรพรรดิได้น่าติดตามดี

Cons

  • ด้วยข้อจำกัดทางเนื้อหา ฉากแอ็กชั่นเลยมีน้อย เซตติ้งของเรื่องไม่ได้อธิบายมากนัก ถ้าไม่ใช่แฟนนิยายอาจไม่ชอบ
  • การปรับเพศตัวละครบางคนอาจทำให้แฟนนิยายขัดใจได้
  • ตีความคอนเซปต์หลายอย่างในนิยายบางจุดผิดเพี้ยนไปเยอะ
  • ช่วงท้ายเรื่องแปลงแนวทางของเซลด้อนในนิยายไปเยอะมาก
  • บิดความสัมพันธ์ตัวละครหลักทั้งสองคนคือ ดอนิค และ ฮาร์ดิน ตรงนี้แฟนนิยายไม่ปลื้มแน่นอน

ADBRO

Foundation Apple TV รีวิว สถาบันสถาปนา สร้างจากนิยายดีที่สุดของ ไอแซค อาสิมอฟ ซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขาขึ้นสู่บัลลังก์แห่งโลกนิยายไซไฟในทันทีหลังจากนั้น

นิยายชุดนี้มักได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดนิยายไซไฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่ง เรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันสถาปนา ที่ถูกสร้างโดย ฮาริ เซลด้อน เพื่อรวบรวมวิทยาการความรู้และอารยธรรมของมนุษย์มาสะสมไว้แล้วจัดทำเอ็นไซโคลปีเดียกาแล็กติกา รวมถึงลดระยะเวลาของยุคมืดของอารยธรรมมนุษย์หลังจากจักรวรรดิกาแล็กซีล่มสลายลงให้เหลือเวลาเพียงพันปีซึ่งเป็นเวลาที่สั้นที่สุด จากนั้นจึงให้สถาบันสถาปนาสร้างอารยธรรมมนุษย์และจักรวรรดิขึ้นใหม่

ซึ่งตัวนิยายทั้งชุด ในเมืองไทยเคยมีการแปลออกมาแล้วครบชุดทั้ง 10 เล่ม ซึ่งมาจากผลงานแปลระดับปรมาจารย์โดย คุณยรรยง เต็งอำนวย และเคยตีพิมพ์กับ สนพ.โปรวิชั่น ซึ่งเวลานี้ก็ได้นำกลับมาพิมพ์ใหม่อีกครั้งกับแพรว ในเครืออมรินทร์ โดยเริ่มพิมพ์ก่อนในชุดสามภาคแรก ส่วนจะได้พิมพ์เล่มที่เหลือกันต่อหรือไม่คงต้องลุ้นกันอีกที

ส่วนฉบับซีรีส์ ได้ผู้อำนวยการสร้างคือ Davd S.Goyer ตอนนี้ฉายแล้ว 10 ตอนจบ ซีซันแรก รับชมได้ทาง Apple TV แฟนหนังไซไฟห้ามพลาดเด็ดขาด

 Foundation (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Foundation Trailer

foundation apple tv
ภาพสถาบันสถาปนา ฉบับนิยาย เล่ม 1-3

Foundation สถาบันสถาปนา เนื้อเรื่อง

ด้านพลอตเรื่องหลักของ Foundation Series หรือ สถาบันสถาปนา เกี่ยวกับเรื่องของจักรวรรดิแห่งอวกาศที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีดาวนครหลวงอยู่ที่ทรานทอร์ ซึ่งปกครองหมู่ดาวต่างๆ มายาวนานโดยราชวงศ์ที่มีองค์จักรพรรดิทำการโคลนนิ่งร่างของตนเองมารุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงยุคสมัยที่จักรวรรดิกำลังเริ่มส่งสัญญาณแห่งการตกต่ำและอาจจะล่มสลาย แต่ก็ไม่มีใครสนใจสัญญาณเหล่านั้น

กระทั่ง ดร.ฮาริ เชลด็อน นักคณิตศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างทฤษฎีแห่งการคำนวณที่เรียกว่า “อนาคตประวัติศาสตร์” ซึ่งเขาใช้สูตรทางคณิตศาสตร์และสมการที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อเอามาใช้ทำนายอนาคตของจักรวรรดิอวกาศ แล้วพบว่ามันจะเข้าสู่ช่วงเวลาล่มสลาย แล้วอารยธรรมของมนุษย์จะเข้าสู่ยุคมืดนานกว่าสามหมื่นปี เซลด็อน ต้องการหาทางย่นย่อช่วงเวลามืดมนดังกล่าว และช่วยกอบกู้มวลมนุษย์ทั้งอวกาศเอาไว้ เขาจึงได้วางแผนการยิ่งใหญ่ด้วยการก่อตั้งสถาบันสถาปนา แล้วรวบรวมความรู้ วิชาการ เทคโนโลยี ภาษา วัฒนธรรม เรื่องราวของมนุษยชาติทั้งหมดมาไว้ในสถาบันเพื่อจัดทำเอ็นไซโคลปีเดียกาแลกติกา แล้ววางแผนให้มีดำเนินการต่างๆที่จะนำไปสู่การย่นย่อยุคมืดมิดของมนุษย์ให้เหลือเพียงเหลือแค่ 1,000 ปี แล้วหลังจากนั้น สถาบันสถาปนาจะเป็นเสาหลักในการฟื้นฟูอารยธรรมของมนุษย์ขึ้นใหม่อีกครั้ง

แต่เรื่องก็ไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น เมื่อจักรวรรดิมองว่าทฤษฎีของเซลด็อนอาจทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นคงและเสื่อมศรัทธาต่อจักรวรรดิ แต่ก็ไม่กล้าที่จะประหารเซลด็อนเช่นกัน จึงอนุมัติให้เขาสร้างสถาบันสถาปนาได้ตามแผนการ แล้วเนรเทศเขาไปที่ดาวเทอร์มินัสที่อยู่สุดปลายขอบของจักรวาล แต่ที่จริงแล้วนั่นคือสิ่งที่เซลด็อนต้องการ เพื่อที่จะสร้างสถาบันในดาวที่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจของจักรวรรดิ

ในบรรดาผู้คนมากมายที่ร่วมเดินทางไปสร้างสถาบันที่เทอร์มินัสร่วมกับเซลด็อน ก็มี กาอัล ดอร์นิก นักคณิตศาสตร์ดาวรุ่งอายุน้อยที่สามารถไขสมการของเซลด็อนออก แล้วเธอก็เลือกที่จะร่วมหัวจมท้ายไปพร้อมกับเซลด็อนในภารกิจสร้างสถาบันสถาปนาขึ้นมาเพื่อเป็นความหวังของมนุษยชาติให้ได้

Foundation Apple TV รีวิว สถาบันสถาปนา
ไอแซค อาสิมอฟ ผู้ให้กำเนิดนิยายไซไฟสถาบันสถาปนา และ กฏ 3 ข้อของหุ่นยนต์อันลือลั่น

Foundation สถาบันสถาปนา รีวิว

ต้องบอกก่อนว่า นิยายชุดสถาบันสถาปนาเป็นนิยายไซไฟที่เขียนมานาน แล้วใช้เวลาเขียนเล่มถัดมาต่อเนื่องมาอีกหลายปี โดยเล่มแรก ตัวของอาสิมอฟมีอาชีพเป็นอาจารย์สอนวิชาเคมี ซึ่งหาเวลามาเขียนนิยายไซไฟ โดยครั้งแรกเริ่มจากการเขียนเรื่องสั้นแล้วส่งไปลงในนิตยสาร Astounding ปรากฏว่า บรรณาธิการในเวลานั้นอ่านแล้วชื่นชอบมาก เขาจึงช่วยระดมความคิดให้อาซิมอฟเขียนเรื่องยาวออกมาต่อ ซึ่งผลงานเรื่องยาวครั้งแรกก็เริ่มตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1942 ในชื่อว่า Foundation สถาบันสถาปนา

สำหรับแรงบันดาลใจของผลงานชุดนี้ อาสิมอฟเขียนไว้ในคำนำของนิยายเล่มแรกว่า เขาได้แรงบันดาลใจจากการมองเห็นภาพคราค่ำของมหานครนิวยอร์กจากบนตึกซึ่งเขาทำงานอยู่ รวมกับการที่เขาได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ยุคโรมันของ เอ็ดเวิร์ด กิบบอนส์ เขาเลยมีความสนเรื่องช่วงเวลาของความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ซึ่งเรื่องของความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิโรมันก็กลายเป็นพลอตหลักของสถาบันสถาปนานั่นเอง เรื่องนี้จึงออกมาในแนว ไซไฟ-สังคม มากกว่าที่จะไปเล่นกับประเด็นทางวิทยาศาสตร์ในแบบฮาร์ดไซไฟจริงจัง แต่มันเป็นการนำแนวคิดเรื่องการปกครอง สังคมศาสตร์ รวมถึงการวิพากษ์การเมืองและประวัติศาสตร์โลกมาตีแผ่มากกว่าจะเล่าเรื่องแนวไซไฟวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วไป

Foundation Apple TV รีวิว สถาบันสถาปนา

ตอนที่ 1-2

เนื้อหาในซีรีส์ เท่าที่ฉายมา 1-2 ตอนแรก เน้นจับความช่วงต้นของเนื้อหาในนิยายเล่ม 1 ซึ่งเป็นช่วงที่ เซลด้อน ถูกให้ชี้แจงเรื่องทฤษฎีของวิชาอนาคตประวัติศาสตร์ รวมถึงข้อกล่าวหาที่เขาถูกโจมตีว่าสร้างความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาลให้กับประชาชน แต่เซลด้อนก็ยืนกรานถึงแนวคิดของเขา โดยมี กาอัล ดอร์นิค ที่รับหน้าที่มาช่วยยืนยันแนวคิดนี้ จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาที่เซลด้อนและผู้คนออกเดินทางไปดาวเทอร์มินัสเพื่อสร้างสถาบันสถาปนา แล้วก็เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย ซึ่งตรงนี้เป็นการเอาเนื้อหาบางส่วนในนิยายชุดไตรภาคหลังในเล่มที่ 8-10 ซึ่งเป็นนิยายเล่มที่อาสิมอฟไม่ได้เขียนเองเพราะเสียชีวิตไปแล้ว แต่กองมรดกของอาสิมอฟได้คัดเลือกกลุ่มนักเขียนไซไฟที่มีความสามารถให้มาช่วยเขียนเนื้อหาต่อ แล้วเรื่องยังมีการโยงไปถึงตัวละครสำคัญอื่นๆในซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็น ซัลวอร์ ฮาร์ดิน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในตัวเอกของนิยายเล่มแรก และซีรีส์ก็มีการเกริ่นถึงตัวละคร มโนมัย ตัวร้ายตลอดกาลของซีรีส์ชุดนี้ที่จะออกมามีบทบาทในเล่ม 2-3 แต่นั่นจะเป็นเรื่องราวในอนาคต ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันว่า ซีรีส์จะทำถึงเนื้อหาช่วงนั้นหรือไม่

ในแง่การสร้าง โปรดักชั่น จัดว่าเป็นงานทุนสูง อลังการ สมราคาที่รอมานาน แม้จะเสียดายอยู่บ้างที่โชว์ภาพรวมของนครทรานทอร์น้อยไปนิด แต่ภาพของสตาร์บริดจ์ทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก

มีจุดหนึ่งที่ต้องบอกสำหรับคนดูที่คาดหวังฉากแอ็กชั่น ว่าเรื่องนี้จะมีน้อย เพราะตัวนิยายเองก็ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นมากมายอยู่แล้ว เนื่องจากการแก้ไขปัญหาและฉากไคลแมกซ์ต่างๆของเรื่องจะเป็นการต่อสู้ขับเคี่ยวกันด้วยสติปัญญา การวางแผนการไว้สลับซับซ้อน 2-3 ชั้น การหักเหลี่ยมเฉือนคมโดยแฝงด้วยแนวคิดด้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และกลยุทธ์ต่างๆเป็นหลัก ดังนั้นถ้าใครไม่เคยอ่านนิยายชุดนี้แล้วมาดูซีรีส์โดยคาดว่าจะได้เห็นฉากสงครามอวกาศหรือแอ็กชั่นอลังการ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สไตล์นั้นครับ แม้จะมีฉากกองยานรบอยู่บ้างก็ตาม

แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบคือ การเอาประเด็นสำคัญในนิยายมาขยายเพิ่ม เช่น เรื่องของผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครอง การนำเทคโนโลยีโคลนนิ่งมาใช้ของจักรพรรดิที่ทำให้สามารถครองบัลลังก์ได้ตลอดกาล แล้วยังสอดแทรกเรื่องหุ่นยนต์ซึ่งเป็นหนึ่งในคีย์สำคัญของซีรีส์นี้เข้ามาเล็กๆด้วยในสองตอนแรก

อีกส่วนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการแปลงเพศให้ตัวละครหลักบางคน เช่น กาอัล ดอร์นิค, ซัลวอร์ ฮาร์ดิน และ เอโต้ เดเมอเซล จากผู้ชายกลายเป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยเฉพาะดอร์นิคและฮาร์ดิน ที่แปลงเป็นผู้หญิงผิวสี ซึ่งตัวดอร์นิคก็ยังพอโอเคอยู่ แต่ตัวฮาร์ดินนี่อาจจะดูแปลกๆเพราะบทของฮาร์ดินที่จะมาหลังจากนี้คือผู้นำทางทหารที่วางแผนเอาความเชื่อทางศาสนามาใช้ประโยชน์ในการปกป้องสถาบันสถาปนา เรียกง่ายๆว่าเป็นตัวละครที่ใช้กลยุทธ์ค่อนข้างรุนแรง เวลานึกภาพตัวละครนี้เลยชวนให้นึกถึงนายทหารผู้ชายสูงวัยมีบุคลิกท่าทางน่ายำเกรงมากกว่า แต่คงต้องรอดูว่าซีรีส์และนักแสดงจะตีภาพของฮาร์ดินออกมายังไง

ในส่วนของตัวละครที่เป็นหัวใจของเรื่องทั้งหมดอย่าง ฮาริ เซลด้อน ซึ่งได้ จาเรด แฮริส มารับบท ถือว่าทำได้ดีและใกล้เคียงกับภาพลักษณ์ของเซลด้อนที่ควรจะเป็นมาก ตรงนี้ต้องชื่นชมนักแสดงและทีมแคสติ้ง แถมยังนำเสนอภาพของเซลด้อนในแง่ที่เป็นมนุษย์ มีทั้งด้านดีด้านเสียออกมาให้เห็นชัดขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็สอดคล้องกับในนิยายเองเหมือนกันที่เล่มแรกๆสร้างภาพลักษณ์ให้เซลด้อนเหมือนเทพเจ้า แต่ในเล่มหลังๆอาสิมอฟเริ่มเขียนถึงตัวเซลด้อนในแง่มุมที่เป็นมนุษย์มากขึ้น แล้วซีรีส์ก็เอามาเล่าได้ดีซะด้วย

แต่เนื่องจากท้ายตอนที่ 2 มีการปรับบทบางอย่างที่แตกต่างไปจากนิยายพอสมควร โดยเฉพาะชะตากรรมของเซลด็อน แต่ก็เป็นการเล่นกับช่องว่างของเนื้อหาในนิยายเหมือนกัน ดังนั้นคงต้องรอดูกันซีรีส์จะเลือกดำเนินเรื่องอย่างไรต่อไป ถือว่าน่าติดตามมาก และแฟนนิยายไซไฟเรื่องนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ

อัพเดทตอนที่ 3-4

ตอนที่ 3-4 จะเป็นการ Time Skip ข้ามมาสู่เรื่องราวของ ซัลวอร์ ฮาร์ดิน ซึ่งในนิยายต้นฉบับเป็นผู้ชาย และเป็นผู้นำนักการทหารที่เก่งกาจ

ฮาร์ดิน จะกลายเป็นนายกเทศมนตรีคนแรกของสถาบันสถาปนา และเป็นคนที่เริ่มใช้ความเชื่อทางศาสนาและเทคโนโลยีทางทหารมาใช้ปกป้องสถาบันจากอันตรายภายนอก โดยเฉพาะดาวที่ล้อมรอบเทอร์มินัส

เนื้อหาในสองตอนนี้จะเล่าถึงช่วงที่บรรดาผู้อพยพมาที่เทอร์มินัส กำลังเริ่มสร้างสถาบันสถาปนา แต่ก็ต้องเจอปัญหามากมาย ทั้งในแง่ของ การสำรวจดาว ภูมิประเทศ กำลังคน ทิศทางที่จะต้องทำต่อไป และอื่นๆ รวมถึงเผชิญหน้ากับอันตรายจากชาวอนาครีออนที่อยู่ในดาวที่ปลายทางช้างเผือกเหมือนกันแล้วก็เป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของสถาบัน

แล้วยังมีปัญหาภายในคือ การขาดเซลด้อนผู้กำหนดแผนทุกอย่าง แล้วทำให้คนที่เหลือมีความเชื่อมั่นในแบบที่เกือบจะงมงายว่า ไม่ควรทำอะไร เพราะปัจเจกชนหนึ่งคนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกระแสประวัติศาสตร์ได้ รวมถึงตัวของฮาร์ดินที่เป็นตัวเอกในเนื้อหาช่วงนี้ก็มีความสงสัยต่อแนวคิดนี้เหมือนกัน แต่เพื่อที่จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตรายล้อมรอบต่อสถาบัน เขาก็ต้องตัดสินใจว่าจะทำยังไงต่อไป

เนื้อหาช่วงนี้ ยังขยายไปเล่าในมุมของจักรพรรดิด้วยว่ากำลังเจอปัญหาอะไรบ้าง และยังมีประเด็นเรื่องสัญญาณการล่มสลายของจักรวรรดิที่กำลังเริ่มเห็นชัดมากขึ้น เปรียบประหนึ่งการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน และการที่จักรพรรดิไม่ยอมรับฟังที่ปรึกษา กระทั่งจักรพรรดิตัวหลักที่ขึ้นมารับหน้าที่แทนในรุ่นปัจจุบันเริ่มตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วก็พยายามจะแก้ไข แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากซะแล้ว นับว่าเรื่องนี้สะท้อนภาพของประวัติศาสตร์โลก การล่มสลายของระบอบการปกครองและอาณาจักรของมนุษย์ที่เคบยิ่งใหญ่ได้ดีมากๆ

แต่ก็คงต้องยอมรับว่า ถ้าเป็นแฟนหนังสือระดับเดนตายที่ต่างประเทศ อาจจะไม่ชอบการปรับเปลี่ยนบทของฮาร์ดินเป็นผู้หญิงผิวสีจริงๆ แม้ว่าตัวนักแสดงจะทำได้ดีก็ตามที

อัพเดทตอนที่ 5-7

ตอนที่ 5-7 ยังโฟกัสอยู่ที่เรื่องราวหลักของ ซัลวอร์ ฮาร์ดิน ที่ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพอนาครีออน และมีการตัดสลับไปยัง กาอัล ดอร์นิค ที่ฟื้นขึ้นมาบนยานอวกาศแล้วต้องสืบหาความจริงเรื่องการตายของเซลด็อน แล้วเธอก็พบว่ามันมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น แต่เป็นหนึ่งในแผนการที่เซด็อนเตรียมไว้

ถ้าไม่ได้อ่านนิยายแล้วมาดูสองตอนนี้ อาจรู้สึกว่ามันทำออกมาได้ดีเยี่ยมและน่าติดตาม แต่ถ้าเป็นแฟนนิยายอาจจะเข้าขั้นสาปส่งในระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมีการตีความคอนเซปต์เนื้อหาของนิยายในช่วงเล่ม 1 ผิดไปจากที่อาสิมอฟเขียนไว้ โดยเฉพาะคอนเซปต์ที่ว่า กระแสของเหตุการณ์ใหญ่หรือ Crisis ที่จะเกิดขึ้นแต่ละครั้งนั้นไม่อาจห้ามได้ แต่ด้วยแผนการใหญ่ที่สถาบันเตรียมไว้โดยอิงกับกระแสระดับมหภาพ จะสามารถแก้ปัญหาได้

“เรียกง่ายๆว่า คนเพียงหนึ่งคน หรือปัจเจกชนเพียงไม่กี่คนไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ของเรื่องราวได้ แต่ต้องอาศัยกำลังของผู้คนจำนวนมาก หรืออย่างน้อยก็จำนวนหนึ่ง”

แต่ส่วนที่น่าสนใจมากขึ้นก็คือการผลัดเปลี่ยนการสืบทอดอำนาจของจักรพรรดิ ที่เล่าออกมาได้อย่างน่าสนใจยิ่ง เป็นตัวที่ทำให้ซีรีส์มีมิติที่น่าติดตามไปอีกแบบ

Foundation Apple TV รีวิว สถาบันสถาปนา

อัพเดทตอนที่ 8-10

ตอนที่ 8-10 โฟกัสไปที่เรื่องราวสองส่วนหลักคือ ความพยายามของ ฮาร์ดินในการเผชิญหน้ากับแพวกอนาครีออนที่ร้ายกาจกว่ามาก รวมถึงกำลังเสริมจากจักรวรรดิ ที่สุดท้ายแล้วก็นำไปสู่การเฉลยจากตัวตนของเซลด็อน ที่ใช้ยาในการปรับสภาพโมเลกุลของร่างกายที่ทำให้เขากลายเป็นตัวตนใหม่ (เสมือนเป็น A.I. รูปแบบหนึ่ง) เพื่อมาเฉลยถึงเรื่องของวิกฤติครั้งที่หนึ่งที่จะเกิดขึ้นกับสถาบันสถาปนา รวมถึงการเฉลยความลับของแผนในการสร้างสถาบัน ซึ่งแท้จริงแล้วต้องอาศัยกำลังคนจากหลายฝ่ายที่จะกลายเป็นพันธมิตรต่อกัน เพื่อสร้างขุมกำลังใหม่ที่จะสามารถต่อต้านการรุกรานของอำนาจจักรวรรดิและศัตรูกลุ่มอื่นๆได้ในอนาคต

น่าเสียดายว่า ถ้าเป็นแฟนนิยายดั้งเดิมมาก่อน คงจะไม่ชอบเนื้อหาใน 3 ตอนสุดท้ายนี้แน่นอน โดยเฉพาะตอนสุดท้ายที่ดัดแปลงหลายๆอย่างจนเปลี่ยนไปจากนิยาย แถมยังดัดแปลงอีกหลายจุดในช่วงท้ายเรื่องโดยเฉพาะบทของ ดอร์นิค และ ฮาร์ดิน ที่ทีมสร้างเสมือนไม่สนใจเลยว่านิยายเขียนไว้ยังไง แต่กลับตีความใหม่ออกมาจนเละตามใจชอบ

สิ่งเดียวที่ยังพอจะทำให้ซีรีส์ชุดนี้น่าติดตามก็คือ เนื้อหาฝั่งจักรวรรดิ โดยเฉพาะเรื่องร่างโคลนทั้งสามของจักรพรรดิ ที่มีอะไรให้เล่นได้เยอะ และนำเสนอออกมาได้น่าติดตามว่าการล่มสลายของจักรวรรดิเกิดขึ้นได้ยังไงบ้าง เรียกว่าถ้าเรื่องนี้สร้างออกมาโดยใช้ชื่อสถาบันสถาปนาแล้วหันไปเล่าเรื่องในแบบ Spin-Off ในส่วนของจักรวรรดิเองน่าจะดีกว่านี้

 

สำหรับนิยายฉบับแปลไทยเล่มที่เหลือ ก็ได้แต่หวังว่าทางแพรวสำนักพิมพ์จะใช้โอกาสนี้ เอาเล่มที่เหลือกลับมาแปลใหม่ครับ เพราะที่ผ่านมามีหนังสือหลายเรื่องที่ไม่ใช่หนังสือชั้นยอดแต่ก็มีการแปลขายออกมามากมาย แล้วถ้าผลงานสุดยอดไซไฟเรื่องนี้จะถูกละเลย ก็ถือว่าน่าเสียดายมาก

ล่าสุดอัพเดทตอนที่ 1-10 จบแล้วซีซันแรก แล้วก็ปูปมใหม่ๆไปยังซีซันสองต่อไป สามารถรับชมได้เลยใน Apple TV+

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://en.wikipedia.org/wiki/Foun-dation_series

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!