เกมอาเขต อาจถึงคราวอวสานในประเทศญี่ปุ่น หลังจากมาตรการขึ้นภาษีผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 10% ทำให้ Game Arcade หลายแห่งต้องประสบปัญหา
เกมอาเขต ใกล้จะอวสาน เพราะอะไร
เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องยากที่ศูนย์เกมต่าง ๆ จะขึ้นราคาเหรียญหยอดตู้เกม และอาจทำให้คอเกมหนีห่างจากเกมตู้ออกไปมากขึ้น เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นภาษีผู้บริโภคจาก 8% เป็น 10% ซึ่งอันที่จริงข่าวนี้มีการประกาศออกมาก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่เพิ่งเริ่มใช้จริงในเดือนตุลาคมปีนี้เอง
แน่นอนว่า ทุกธุรกิจและทุกภาคส่วนในญี่ปุ่นย่อมได้รับผลกระทบ ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่จะโดนเรื่องนี้อย่างหนักจนอาจถึงขั้นที่ต้องพบจุดจบเลยก็คือ เกมอาเขต Game Arcade หรือเกมตู้ นั่นเอง เพราะในขณะที่แทบทุกอุตสาหกรรมและทุกธุรกิจในญี่ปุ่นยังสามารถเพิ่มราคาและค่าบริการขึ้นมาได้ แต่เกมอาเขตติดขัดปัญหาในแง่ของการใช้เหรียญ ซึ่งในญี่ปุ่นทุกวันนี้จะใช้เหรียญ 100 เยน เพื่อเล่นเกมตู้เหล่านี้ แต่หลังจากการขึ้นภาษีครั้งนี้ ก็ทำให้มีการเพิ่มราคาเป็น 110 เยน หรือก็คือ เหรียญ 100 + เหรียญ 10 เยน ต่อเกม ซึ่งถ้าเป็นเกมใหม่ ๆ ก็อาจจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ แต่ความยากลำบากของเรื่องนี้คือการที่ตัวเกมรุ่นเก่า ๆ มีการตั้งค่าหยอดเหรียญไว้ตายตัวแล้ว
เรื่องก็ได้ส่งผลกระทบพอสมควร เพราะหลังจากที่ช่วงหลังธุรกิจเกมอาเขตก็เริ่มทำกำไรได้น้อยลงอยู่แล้ว ยังมาเจอปัญหานี้เข้ามาอีก แล้วยังมีรายงานว่า เจ้าของกิจการหลายแห่งติดหนี้ธนาคารและต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อแก้ปัญหา แล้วยังมีรายงานจาก Livedoor News ระบุว่า ในปี 2006 ญี่ปุ่นมีเกมอาเขตมากกว่า 24,000 แต่ในปี 2016 เหลือเพียง 14,000 เท่านั้น ซึ่งถือว่าลดลงกว่าครึ่งหนึ่งในเวลาเพียง 10 ปี สำหรับธุรกิจที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่าสามทศวรรษ
แล้วจะแก้ปัญหายังไง
อันที่จริงแล้ว หนทางแก้ไขปัญหาในแบบอื่น ๆ ก็ยังพอมีครับ หนึ่งในวิธีการที่หลายฝ่ายกำลังสนใจมากคือ การเปลี่ยนรูปแบบจากเหรียญเงินเยน มาเป็นการใช้ดิจิทัล ในการจ่ายค่าเล่นเกม ซึ่งเวลานี้หลายประเทศทั่วโลกก็กำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสดด้วย แต่ก็ยังติดปัญหาสำคัญว่า เจ้าของกิจการเกมอาเขตหลายแห่งไม่มีกำลังพอที่จะสามารถลงทุนในส่วนนี้ได้
มีเคสหนึ่งจากเจ้าของกิจการเกมอาเขตที่ โยโกฮาม่า ซึ่งให้สัมภาษณ์กับทาง Sankei Business ถึงความวิตกเรื่องนี้ว่า “อุตสาหกรรมเกมอาเขตอาจจะถึงคราวอวสานในไม่ช้า บรรดาเจ้าของร้านตู้เกมไม่สามารถเพิ่มค่าเกมเป็น 110 เยนได้ อีกทางเลือกหนึ่งคือ การกำหนดให้ภาษีกลุ่มอุตสาหกรรมเกมอาเขต คงที่ 8% เหมือนเดิม”
แม้ว่าในญี่ปุ่น จะถือว่าเกมอาเขต เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมยอดนิยมที่อยู่คู่กันมานานตั้งแต่เริ่มบูมครั้งแรกในทศวรรษ 80 และกลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งของคนญี่ปุ่น แต่ก็ไม่แน่ว่าถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ สิ่งนี้อาจจะใกล้ตายจากไปเร็ว ๆ นี้ก็ได้ครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
เว็บไซต์อ้างอิง
otakuusamagazine