Spoil!! Kimetsu no Yaiba 205 ตอนจบ สปอย บทสรุปการต่อสู้ ตอนอวสานที่สวยงาม

Kimetsu no Yaiba 205 ดาบพิฆาตอสูร ตอนจบ สปอย สรุปการต่อสู้ทั้งหมดระหว่าง ทันจิโร่ เหล่าเสาหลัก กับ มุซัน ตั้งแต่บทสุดท้าย จนถึงตอนอวสาน Time Skip ไปในโลกปัจจุบัน

Kimetsu no Yaiba 205 และรวมเหตุการณ์ในบทสุดท้าย การต่อสู้กับมุซัน จนถึงบทสรุปในตอนอวสานที่สุดประทับใจ คู่ควรกับการ์ตูนยอดเยี่ยมมาแรงที่สุดในยุคนี้ ทั้งที่เป็นผลงานเรื่องยาวเรื่องแรกของ อ. โกโตเงะ โคโยฮารุ แถมยังเป็นผู้หญิงด้วย แต่กลับวาดการ์ตูนแอ็กชั่นโชเน็นสายหลักในจัมป์ได้ยอดเยี่ยมเอามากๆ

• แนะนำตัวละคร ทันจิโร่ กลุ่มนักล่าอสูร และ เสาหลัก
• ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu No Yaiba ปราณ รวมทุกรูปแบบ มีอะไรบ้าง
• Spoil!! Kimetsu No Yaiba 200 สปอยล์ รุนแรงมาก ค่าตอบแทนแห่งชัยชนะ

Kimetsu no Yaiba 205 สปอย สรุปการต่อสู้กับมุซัน

บทสุดท้ายของ ดาบพิฆาตอสูร หรือจะเรียกว่า ปราสาทนิรันด์กาล เป็นศึกยาวที่เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 137 หลังจากมุซันถูกกับดักของอุบุยาชิกิที่พลีชีพตนเองพร้อมกับภรรยาและลูกสาวสองคน ทำให้พวกทันจิโร่และเสาหลักที่เหลือทั้งหมดมีโอกาสเข้ารุมมุซัน แต่พวกเขาก็ถูกดึงเข้ามาสู่มิติในปราสาทนิรันดร์ใต้ดิน

จากนั้นทั้งหมดก็สู้ศึกกันมาถึงตอนที่ 183 เมื่อพวกทันจิโร่และเสาหลักโค่นอสูรจันทร์ข้างขึ้นได้ทั้งหมด ในขณะที่ก็ต้องเสียสละบางคนไป เช่น  ชิโนบุ เก็นยะ มุอิจิโร่ และทามาโยะ

ส่วนพวกทันจิโร่กับพวกก็เริ่มเผชิญหน้ากับมุซันที่เข้าสู่ร่างสุดยอด แล้วการต่อสู้ก็เลยเถิดจนพวกเขาทะลุพื้นดินขึ้นมาต่อสู้กันบนโลกเบื้องบน

ทันจิโร่ถูกเลือดพิษของมุซันเล่นงานจนอยู่ในสภาพปางตาย เสาหลักที่เหลือคือ กิยู ซาเนมิ มิตสึริ โอบาไน เกียวเม รวมพลังกันรุมมุซัน แต่ก็แทบจะต้านไม่ไหว ส่วนพวกของ คานาโอะ เซ็นนิตสึ อิโนะสึเกะ ก็เข้ามาช่วยกันรุมมุซันเพิ่มด้วย แถมยังได้ยูชิโร่ที่ใช้ยันต์ช่วยต่อสู้และรักษาบาดแผลให้อีก

ขณะเดียวกัน เนซึโกะ ซึ่งได้ยาของทามาโยะแล้วหลับไปตั้งแต่ก่อนการต่อสู้เริ่มขึ้น ก็ลืมตาตื่น แล้วเธอก็วิ่งไปยังสถานที่ต่อสู้พร้อมกับค่อยๆได้ความทรงจำในฐานะมนุษย์กลับมา รวมถึงยืนยันในความทรงจำของเธอแน่แล้วว่า มุซันนี่แหละคือคนที่ฆ่าล้างครอบครัวของเธอ

 

ด้านจิตของทันจิโร่ที่กำลังมหดสติ ก็เริ่มย้อนอดีตไปสู่ความทรงจำของบรรพบุรุษนั่นคือ คามาโดะ สุมิโยชิ ที่ครั้งหนึ่งเคยสนิทสนมกับ สึกิคุนิ โยริอิจิ ผู้ค้นพบปราณตะวันคนแรก แล้วยังเป็นคนที่นำวิชาการหายใจของปราณมาถ่ายทอดให้นักดาบในองค์กรนักล่าอสูร ทำให้ยุคที่โยริอิจิเข้าร่วม เป็นยุคทองที่สุดขององค์กร แถมตัวเขายังไล่ต้อนมุซันจนเกือบสังหารอีกฝ่ายได้ แต่เพราะความประมาทเพียงไม่กี่วินาที มุซันจึงระเบิดร่างตัวเองเป็นหลายส่วนแล้วหนีตายไป จากนั้นเขาก็ไม่ปรากฏตัวออกมาให้พวกนักล่าอสูรเห็นตัวอีกหลายร้อยปี

โยริอิจิ รู้สึกผิดที่ตนล้มเหลวเรื่องจัดการมุซัน แถมพี่ชายของเขายังกลายเป็นอสูรอีก เขาจึงออกจากองค์กร แล้วมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวคามาโดะอยู่ระยะหนึ่ง ช่วงนั้นเองที่เขาได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวนี้ช่วยเหลือไว้ เขาจึงถ่ายทอดเคล็ดลับการหายใจของปราณตะวันและต่างหูประจำตัวเอาไว้ให้

ตระกูลคามาโดะจึงรีบสืบทอดเทคนิคการหายใจเรื่อยมา จนถึงรุ่นของทันจิโร่ ทำให้เขารู้ที่มาที่ไปทั้งหมด แถมยังได้เห็นกระบวนท่าที่ 13 ของปราณตะวันที่โยริอิจิใช้โจมตีมุซันจนเกือบสังหารได้ในครั้งเดียว

เมื่อทันจิโร่ฟื้น ก็กลับเข้ามาช่วยทุกคนต่อสู้ในเวลาที่สถานการณ์กำลังสิ้นหวังสุดขีด เพราะทุกคนไม่เหลือสภาพที่ต่อสู้ไหวอีก หลายคนบาดเจ็บถึงขั้นพิการแล้วด้วยซ้ำ ทันจิโร่ฟื้นขึ้นมาคราวนี้ก็ใช้ท่าที่ 13 ของปราณตะวันเข้าต่อสู้กับมุซัน ส่วนคนที่เหลือก็ฮึดขึ้นมาต่อสู้ โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ถ่วงเวลามุซันจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น

นอกจากนี้ยังมีไพ่ตายที่ทามาโยะใช้เล่นงานมุซันก่อนที่เธอจะตาย เนื่องจากเธอฉีดยาพิษที่เธอค้นคว้ามานาน ด้วยแนวคิดว่า จะโค่นมุซัน ไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งมากกว่าก็ได้ ขอเพียงทำให้มุซันอ่อนแอลงก็พอ ยาพิษที่ว่านี้จะทำให้เซลล์ของมุซันมีอายุแก่ลงเรื่อยๆทุกนาที ซึ่งก็จะส่งผลถึงพลังฟื้นตัวของมุซันด้วย ทำให้พวกทันจิโร่สามารถรุมมุซันจนมันไม่สามารถหนีได้

แล้วในท้ายที่สุด พวกเขาก็สู้ตายจนสามารถยื้อเวลาให้พระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ทำให้ โดยที่บางคนยอมพลีชีพเพื่อถ่วงเวลา ส่วนมุซันก็ใช้พลังกลืนกินร่างของทันจิโร่ แต่ก็โดนทันจิโร่ใช้พลังของดาบแดงโจมตีครั้งสุดท้าย แล้วมุซันก็ถูกแสงอาทิตย์เผาจนร่างสลายในที่สุด

หลังจากมุซันสลายไป คนที่ยอมสละชีพเพื่อสู้ศึกนี้ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เกียวเม โอบาไน มิตสึริ ทั้งสามคนเสียชีวิตตามกัน ซาเนมิหมดสภาพต่อสู้ กิยูเสียแขนหนึ่งข้าง คานาโอะเสียตาหนึ่งข้างจากการฝืนใช้ความสามารถพิเศษ ส่วนเซนนิตสึและอิโนะสึเกะบาดเจ็บหนักแต่ยังพอเคลื่อนไหวได้ ส่วนทันจิโร่ถูกพบว่าบาดเจ็บหนักแล้วกำลังจะตาย ส่วนเนซึโกะก็มาถึงสถานที่ต่อสู้พอดี

 

Kimetsu no Yaiba 201-204 สปอย

ถึงแม้ว่ามุซันจะสลายไปแล้ว แต่ปรากฏว่าเซลล์ส่วนที่เหลือของมุซันได้เข้าสู่ร่างกายของทันจิโร่ มันไม่อยากตาย และพบว่าทันจิโร่นี่เองคือคนที่จะทำให้ความฝันที่จะเป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตของมันที่เป็นทั้งอมตะและไม่แพ้แสดงอาทิตย์กลายเป็นความจริงได้ แล้วมันก็ส่งต่อเจตจำนงของมันเองคือการฆ่าพวกนักล่าอสูรให้หมดมาให้กับทันจิโร่

ทันจิโร่จึงลืมตาตื่นขึ้นมาในฐานะของอสูรที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะเขาสามารถเอาชนะแสดงอาทิตย์ที่เป็นจุดอ่อนของมุซันได้ แล้วก็จะเล่นงานพวกคนที่เหลือ อิโนะสึเกะที่ยังมีแรงสู้อยู่ จฟันคอทันจิโร่แต่ก็ทำไม่ลง เนซึโกะก็พยายามสุดชีวิต เข้าไปกอดทันจิโร่ไว้เพื่อเรียกสติเขากลับมา และขอร้องให้ใครก็ได้ฆ่าพี่ชายของเธอไปดีกว่าจะยอมให้เขาฆ่ามนุษย์

แต่คานาโอะยังเหลือไพ่ตายอีกอย่างคือ ยาที่ทามาโยะทำไว้อีกหนึ่งหลอด ที่จะช่วยให้กลับเป็นมนุษย์ ซึ่งชิโนบุฝากไว้กับคานาโอะ เธอจึงใช้พลังเฮือกสุดท้ายเอายาฉีดเข้าตัวทันจิโร่

เมื่อทันจิโร่ได้รับยา สติของเขาก็เริ่มกลับมา แต่ภายในห้วงจิตใต้สำนึกของทันจิโร่ ตัวมุซันที่ยังเหลืออยู่ในร่างกายของเขาก็พยายามทุกวิถีทางขัดขวางไม่ให้ทันจิโร่กลับเป็นมนุษย์

มุซัน พยายามเป่าหูว่า ทันจิโร่รอดชีวิต แต่คนอื่นๆกลับต้องตาย คนพวกนั้นต้องแค้นแน่ แต่ทันจิโร่แย้งว่า ในโลกนี้มีผู้คนที่ยอมเสี่ยงตัวเองเพื่อคนอื่น พร้อมกับมีบรรดามือของเหล่าเสาหลักที่เสียชีวิตไปแล้วดันร่างของทันจิโร่ให้กลับขึ้นไปยังอีกฝั่งที่มีดอกฮิกังสีม่วงพร้อมกับมือของเนซึโกะที่ยื่นมารับ และมีมือของคนที่เหลือยื่นมาด้วย

มุซันพยายามเกลี้ยกล่อมทันจิโร่ว่า มีแต่ทันจิโร่เท่านั้นที่จะเป็นสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าตนเองได้ แต่ทันจิโร่บอกว่าเขาขอตายอย่างมนุษย์ มุซันไม่มีทางเลือก ได้แต่ร้องอ้อนวอนขอให้ทันจิโร่อย่าทิ้งตนไป แต่สุดท้ายทันจิโร่ก็กลับมาอีกฝั่งแล้วลืมตาตื่นขึ้น แล้วกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากชัยชนะ พวกทันจิโร่ก็กลับมาพักฟื้นที่คฤหาสน์ผีเสื้อ ทุกคนได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ส่วนองค์กรล่าอสูรก็สลายตัวลง แล้วทันจิโร่ก็ขอให้ยูจิโร่มีชีวิตอยู่เพื่อระลึกถึงทามาโยะต่อไป

 

สำหรับ ทันจิโร่ และ คานาโอะ เรือนี้ใครชิปไว้ ขอแสดงความยินดีด้วย

จากนั้น ทันจิโร่ เนซึโกะ เซนนิตสึ อิโนะสึเกะ ก็เดินทางกลับไปที่บ้านเกิดของทันจิโร่ ทุกคนใช้ชีวิตร่วมกันเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆแล้ว

แล้วหลังจากนั้นเวลาก็ Time Skip ผ่านไปราวร้อยปี สู่โลกยุคปัจจุบัน

 

Kimetsu no Yaiba 205 ตอนจบ สปอย

ในตอนจบ บรรดาตัวละครทั้งหมดที่เราคุ้นหน้ากันก็เสมือนได้กลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง ในขณะที่อีกหลายคนก็เป็นลูกหลานรุ่นหลังของพวกทันจิโร่ โดยเฉพาะทายาทของพวก ทันจิโร่ เนซึโกะ คานาโอะ เซนนิตสึ อิโนะสึเกะ ที่ออกมาในหน้าเปิดร่วมกันหมด

ซึ่งสองพี่น้อง จากหน้าตาบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นทายาทรุ่นหลังของ ทันจิโร่ และ คานาโอะ

คามาโดะ สุมิฮิโกะ อายุ 15 ปี คนน้อง นิสัยสบายๆ (ตรงข้ามกับสมัยของทันจิโร่ที่เป็นพี่ใหญ่ของครอบครัว)

คามาโดะ คานาตะ อายุ 16 ปี คนพี่ หน้าตาคล้ายคานาโอะ แต่เป็นผู้ชาย นิสัยจริงจัง

ส่วนพี่น้องอีกคู่ เป็นทายาทรุ่นหลังของ เนซึโกะ และ เซนนิตสึ

อากาสึมะ โทวโกะ อายุ 18 ปี นิสัยห้าวสุดๆและชอบผู้ชายหล่อ (สวนทางกับเนซึโกะที่เป็นสาวหวาน ใจดี)

อากาสึมะ โยชิเทรุ อายุ 17 ปี นิสัยขี้แหย

ซึ่งโยชิเทรุกำลังประทับใจกับหนังสือที่บันทึกเรื่องราวการปราบอสูรของบรรพบุรุษ ซึ่งหนังสือนี้เซนนิตสึเป็นคนเขียนขึ้นมา

ทั้งสองยังดูข่าในแอพ เป็นนักวิจัยหน้าสวยจนเข้าใจว่าเป็นผู้หญิง แต่ที่จริงแล้วเป็นชาย

ฮาชิบิระ อาโอบะ เขาเป็นทายาทรุ่นหลังของ อิโนะสึเกะ และ อาโอบะ ซึ่งวิจัยเรื่องดอกฮิกังสีฟ้า

โทวโกะ น่าจะเป็นแฟนกับ คานาตะ (สายตระกูลแตกออกมาเป็นร้อยปีแล้ว ไม่น่าแปลก) แล้วโยชิเทรุก็เป็นแฟนคลับของยูชิโร่ ที่วาดภาพเหมือนของทามาโยะจนโด่งดัง

ด้านสุมิฮิโกะ ที่เพิ่งตื่นนอนสาย ก็แสดงความสามารถในด้านร่างกายที่น่าจะสื่อได้ว่า เทคนิคปราณหรือไม่ก็เซลล์อสูรอาจส่งผลบางอย่างต่อสายเลือดของคนในตระกูล แล้วก็มาถึงรุ่นของสุมิฮิโกะ

ในระหว่างนั้น เราจะได้เห็นชีวิตใหม่ที่แสนสงบสุขของโลกที่ไม่มีอสูร รวมถึงเหล่าตัวละครที่หน้าตาเหมือนเสาหลักและหลายคนที่เสียชีวิตไป สื่อถึงการกลับมาชาติมาเกิดของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น

กิยู ซาบิโตะ มาโคโมะ ที่ชาตินี้กลายเป็นเด็กประถมกลับมาสนิทสนมกันอีก

ชิโนบุ คานาเอะ กลับมาเกิดเป็นสองสาวพี่น้องคู่นักเรียนมัธยมสุดสวย

สองพี่น้องโทคิโตะ ที่กลับชาติมาเกิดเป็นเด็กทารก

เกียวเม ที่กลายเป็นครูอนุบาลดูแลเด็กๆ

อุซุย กลายเป็นนักกีฬาชื่อดัง แถมมีข่าวชู้สาวด้วย

โอบาไนและมิตสึริที่กลายเป็นคู่รักเจ้าของร้านอาหาร

อุโรโกะดากิ และ ปู่ของเซนนิตสึที่กลายเป็นเพื่อนนั่งเล่นหมากล้อมกัน

อุบุยาชิกิ คิริยะ ที่กลายเป็นคนอายุยืนที่สุดในญี่ปุ่น มากกว่าร้อยปี สวนทางกับคนในตระกูลเดิมที่เสียชีวิตตั้งแต่วัยหนุ่ม

ส่วนสุมิฮิโกะระหว่างวิ่งไปโรงเรียน ก็สนิทสนมกับ เร็นโกคุ โทจูโร่ (คนที่หน้าตาเหมือนคนในตระกูลเร็นโกคุ) แล้วทั้งสองก็ไปโรงเรียนด้วยกัน ในขณะที่รถตำรวจที่มีสองรุ่นพี่รุ่นน้องที่หน้าเหมือน ซาเนมิและเก็นยะกลับชาติมาเกิดไล่ตามมาด้วย

ส่วนภาพสุดท้าย เป็นภาพถ่ายรวมของเหล่านักล่าอสูรที่รอดชีวิตในศึกสุดท้ายมารวมกัน เป็นอันจบเรื่องราว

สำหรับในประเทศไทย ฉบับมังงะแปลไทยเป็นลิขสิทธิ์ของ สนพ. สยามอินเตอร์ ในชื่อ ดาบพิฆาตอสูร วางขายแล้วเล่ม 1-18 และกำลังสร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มทลาย โดยเฉพาะแบบเล่มที่แทบจะขาดตลาด และเป็นมังงะที่ติดอันดับขายดีสำหรับช่องทาง E-Book ใน 10 อันดับแรกหลายเล่ม

ส่วนช่องทางอื่นในแบบถูกลิขสิทธิ์ คนไทยสามารถอ่านได้ทางแอปพลิเคชั่นของ Mangaplus by Shueisha ซึ่งได้เปิดให้บริการและสามารถดาวโหลดแอปลงทุกอุปกรณ์ได้แล้วครับ

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

demonslayermanga.com/chapter/demon-slayer-kimetsu-no-yaiba-spoilers-raw-chapter-205/