รีวิว Love Alarm ss2 (Netflix) แอปเลิฟเตือนรัก บทสรุปความรักสามเส้าสุดดราม่า
Love Alarm ss2
สรุป
บทสรุปของเรื่องราวความรักสามเส้าสุดดราม่า ที่บอกให้ผู้คนเลิกยึดติดเรื่องหัวใจกับเทคโนโลยีเกินไป เพราะบางครั้งเรื่องหัวใจมันง่ายกว่าที่เราคิด นำเสนอในหลายมิติมากขึ้น บทสรุปสวยงาม แต่เดินเรื่องยืดยาดเกินไปหน่อย ปมต่างๆ ถูกสร้างไว้เยอะแต่ใช้ไม่คุ้มเท่าไหร่
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- การเล่าเรื่องครีเอทและมีชั้นเชิงมากขึ้น
- นักแสดงหล่อสวยดูเพลินตาดี บทหวานชวนฟินมีกระจายกว่าซีซันแรก
- งานสร้างและโปรดักชั่นสวย เพลงประกอบเพราะ แค่ฟังอย่างเดียวก็เพลินแล้ว
- เล่นประเด็นเรื่องความรู้สึกของคนกับเทคโนโลยีได้ดี
- ใส่ความเป็นทริลเลอร์ไซไฟเข้ามาเพิ่มได้น่าสนใจ ชนิดที่สามารถเอาประเด็นนี้ไปทำซีรีส์แยกเลยยังได้
- มีพากษ์ไทย ทีมเดียวกับซีซันแรก
Cons
- คาแรคเตอร์ตัวละครส่วนใหญ่ดูไม่สมจริงเลย มีความเป็นการ์ตูนผู้หญิงตามสูตรสูงมาก
- บทมีความโอเวอร์มากไปนิดเหมือนละครไทยน้ำเน่าที่เต็มไปด้วยมุกบังเอิญได้ยิน
- เดินเรื่องยืดยาดหลายฉาก ใส่แฟลชแบ็กมากเกินไป
- สร้างปมไว้เยอะ แต่ใช้ไม่คุ้ม
Love Alarm ss2 Netflix รีวิว แอปเลิฟเตือนรัก ซีรีส์ดัดแปลงจาก Webtoon ชื่อดังของเกาหลี เรื่องราวความรักสามเส้าของหญิงหนึ่งชายสองที่สืบเนื่องจากซีซันแรก ที่ชีวิตของพวกเขาต้องวุ่นวายเพราะเลิฟอลาม แอปที่จะทำให้ผู้ที่ดาวโหลดมาใช้สามารถรับรู้ได้ว่าภายในรัศมี 1 เมตรนั้นมีใครที่กำลังแอบชอบคุณอยู่ แล้วยังทำให้คนอื่นรับรู้ได้ว่าคุณกำลังแอบชอบเขาหรือไม่
สามารถรับชมซีซันทั้ง 6 ตอนจบได้แล้วใน Netflix ครับ และมีพากย์ไทย ซึ่งพากย์ไทยได้ดีมากด้วย ส่วนบทสรุปของความรักว่า ใครจะได้คู่กับใคร ในรีวิวด้านล่างสุดมีซ่อนสปอยตอนจบไว้ หากใครอยากรู้ กดเข้าไปดูข้างในได้เลยครับ
สำหรับรีวิวจากภาคแรก
Trailer Love Alarm ss2 ตัวอย่าง
Love Alarm ss2 ตัวละคร
นางเอกของเรื่อง คิมโจโจ (แสดงโดย คิมโซฮยอน) สาวน้อยที่ชีวิตต้องเผชิญมรสุมตั้งแต่เด็ก มีปมเรื่องครอบครัวที่เสียชีวิตไปหมดจากการฆ่าตัวตายทั้งครอบครัวเมื่อครั้งอยู่ที่เกาะเซจู ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นปมฝังใจลึก จนยากที่จะมีความสัมพันธ์แบบคนปกติได้
เพื่อที่จะระบายอดีตของตนเอง เธอจึงกลายมาเป็นนักวาดบนอินเทอร์เน็ต สร้างผลงานภาพวาดที่ชื่อว่า “เดอะ ริงกิ้ง เวิร์ล” จนเป็นกระแสโด่งดัง มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก แต่กลายเป็นว่าผลงานของเธอกลับมีส่วนกระตุ้นให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตตามมา เพราะถูกคนบางกลุ่มตีความเป็นคำทำนายจนเกิดเหตุฆาตกรรมไปหลายคน ในที่สุดเธอจึงยอมเปิดเผยเรื่องราวแท้จริงของริงกิ้งเวิร์ลว่ามาจากชีวิตของเธอเอง
อีฮเยยอง (แสดงโดย จุงคารัม) ชายหนุ่มผู้หลงรักโจโจอย่างหมดใจมาตั้งแต่สมัยเรียน เขายังเป็นเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเด็กของซอนโอด้วย เป็นคนจิตใจดีและซื่อตรงมาก แม้เขาจะรู้ว่าโจโจชอบซอนโอมากกว่า แต่ภายหลังเขาก็ตัดสินใจที่จะรอให้เลิฟอลามของโจโจต่อไปโดยไม่สนใจว่าเขาอาจจะต้องรอเก้อก็ตาม หลังจากเรียนจบ เขาก็เข้าทำงานในบริษัทที่พัฒนาเลิฟอลาม ซึ่งในซีซันสองเราจะได้เห็นเขาพัฒนาความสัมพันธ์หวานชื่นกับโจโจมากขึ้นเรื่อยๆทุกที
ซอนโอ (แสดงโดย ซองคัง) นายแบบหนุ่มสุดฮอต เพื่อนสนิทของฮเยยอง และเป็นคนรักเก่าของโจโจในสมัยเรียนมัธยม เขากลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แม้ว่าปัจจุบันจะคบหากับยุคโจซึ่งเป็นนางแบบชื่อดัง แต่เขายังคงไม่ลืมรักแรกคือโจโจ กระทั่งเขาได้กลับมาพบเธออีกครั้ง เรื่องราวรักสามเส้าสุดดราม่าวุ่นวายระหว่างหญิงหนึ่งชายสองจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ซอนด็อกกู เพื่อนสมัยเรียนของ โจโจ เนื่องจากสมัยเรียน โจโจเคยช่วยเขาไว้ เขาจึงยอมเปิดใจให้ ที่จริงแล้วเขาคือผู้สร้างเลิฟอลามตัวจริง แรงบันดาลใจของเขามาจากการที่เขาแอบหลงรักพัคกุลมี แต่แสดงออกไม่เก่ง ภายหลังเขาช่วยเหลือโจโจด้วยการให้ฟังชั่นโล่และหอก เพื่อช่วยแก้ปัญหาชีวิตรักของเธอ แล้วเพื่อเป้าหมายแท้จริงของเขาก็คือต้องการยกเลิกเลิฟอลาม 2.0 ที่ ไบรอัน ชอน พี่ชายของเขาปล่อยออกมา
Love Alarm ss2 รีวิว
สำหรับภาคต่อของ Original Series Netflix ของเกาหลี ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่ Netflix ออกทุนสร้างโดยตรง แล้วจบเรื่องแบบโคตรจะค้างคาเอาไว้ในซีซันแรก สำหรับความรักสามเส้าสุดดราม่าของตัวละคร และฉากจบในแบบระเบิดลง ซึ่งเปิดเรื่องในซีซันสองมา จะไม่ได้เริ่มต้นจากฉากจบของซีซันแรกเลยนะครับ แต่จะเป็นการเล่าย้อนกลับไปเล็กน้อย เพื่อให้เราได้เห็นว่า ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ในฉากจบภาคแรก ตัวละครได้เติบโตและใช้ชีวิตกันยังไงบ้าง รวมถึงความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นระหว่าง โจโจและฮเยยอง ที่กำลังหวานชื่นเต็มที่
แต่แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็กลับมาดราม่าทันทีหลังจากซอนโอกลับเข้ามาในชีวิตของทั้งคู่ ซึ่งตัวซอนโอเองก็ไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับแฟนสาวที่เป็นนางแบบดังคือ ยุคโจ ในขณะที่ตัวซอนโอเองก็มีความตึงเครียดในชีวิตจากความกดดันหลายอย่างทั้งในเรื่องหน้าที่การงานและการต้องลงเล่นการเมือง
แล้วในซีซันสองยังมีการเริ่มต้นเลิฟอลาม 2.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการใช้ระบบที่ทำให้ส่วนของลิสต์รายชื่อผู้ที่อาจจะชอบ แต่มันกลับทำให้ผู้คนหมกมุ่นกับการใช้งานเลิฟอลามกันมากขึ้น จนกลายเป็นตัวชี้นำความรักและความคิดอ่านของผู้คนในสังคมไปด้วย
ซีซันสองมีจุดเด่นหลายอย่างที่น่าสนใจ ที่ดูเหมือนว่าทีมสร้างจะพยายามขยายการเล่าเรื่องราวให้ลุ่มลึกขึ้น และเล่นประเด็นทางสังคมกับด้านมืดของเทคโนโลยีเพิ่มเติม มีบางฉากที่ดูแล้วเหมือนเรากำลังดูเรื่องแนวดาร์กเทคโนโลยีแบบ Black Mirror เลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่เลิฟอลามที่เป็นหนึ่งในปมสำคัญของซีรีส์ รวมถึงการ์ตูนที่โจโจวาดบนออนไลน์เรื่อง เดอะริ้งกิ้งเวิร์ล ที่กลายเป็นชนวนเหตุด้วย ซึ่งการใส่และขยายปมเรื่องด้านมืดของเทคโนโลยีเข้ามานี่เอง ทำให้เรื่องราวดูมีน้ำหนักและน่าติดตามมากกว่าเดิม เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ก็จะมีแต่เรื่องราวรักสามเส้ากับดราม่าชีวิตรันทดของนางเอกเท่านั้นเอง
ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ต้องชมคือ การเขียนบทมิตรภาพเพื่อนผู้ชายระหว่าง ฮเยองและซอนโอ ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ดูแล้วเชื่อลงว่า สองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันมานานจริงๆ ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเข้ามาแทรก จนกลายเป็นรักสามเส้าสุดดราม่า แต่ท้ายที่สุดมิตรภาพของพวกเขาก็ยังคงอยู่
ตัวซีรีส์ได้เพิ่มประเด็นการสะท้อนสังคม ที่ราวกับจงใจจิกกัดสังคมจริงๆของโลกเราในเวลานี้ในหลายแง่มุม แม้ว่าเลิฟอลามจะมีความโอเวอร์ในตัวของมันเอง ทั้งการทำงานของเอไอและอื่นๆ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ไม่กี่ปีต่อจากนี้ อาจจะมีการพัฒนาแอปลักษณะนี้ขึ้นมาใช้งานจริงก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้น มันก็อาจจะกลายเป็นตัวชี้นำความคิดของผู้คนในสังคมได้เหมือนที่ในซีรีส์นำเสนอว่ามันทำให้คนเราหมกมุ่นกับมันมากเกินไป
อีกข้อที่น่าสนใจคือ มีการพูดถึงประเด็นการใช้เลิฟอลามในทางการเมือง จะเป็นยังไงถ้าหากว่ามันทำให้บรรดานักการเมือง ศิลปิน หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง ต้องเสียชื่อ เพราะตัวเลิฟอลามดันไปดังขึ้นบนเครื่องของผู้หญิงหรือผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่สามีภรรยาของตนเอง มันคงจะกลายเป็นประเด็นดังที่ผู้มีอำนาจนำมาใช้งานแน่นอน ซึ่งซีรีส์ก็มีการหยิบยกเรื่องนี้มาเล่นอยู่ เพียงแต่เล่นไม่สุดเท่านั้น
ส่วนจุดด้อยยังคงมีมากมาย โดยเฉพาะการเดินเรื่องที่ค่อนข้างมีฉากยืดและใช้แฟลชแบ็กย้อนอดีตแทรกเป็นระยะเยอะมาก อีกทั้งบรรดาคาแรคเตอร์ตัวละครส่วนใหญ่ก็ดูแล้วไม่ค่อยสมจริงเลย มีความเป็นการ์ตูนผู้หญิงตามสูตรสูงมาก แต่ก็อย่างว่า เพราะต้นฉบับมาจาก Webtoon ตัวบทและการเดินเรื่องก็มีความโอเวอร์มากไปนิดเหมือนละครไทยน้ำเน่าที่เต็มไปด้วยมุกบังเอิญได้ยิน หรือตัวละครบังเอิญเจอกันหลายครั้ง อีกจุดหนึ่งที่น่าเสียดายคือ มีการสร้างปมไว้เยอะหลายประเด็นมาก แต่ใช้งานไม่คุ้ม เพราะบทสรุปอยู่ที่ความรักของตัวละครเป็นหลักเท่านั้นเองจริงๆ
Love Alarm ss2 สปอยตอนจบ
สำหรับตอนจบ ใครจะได้คู่กับใคร กดดูสปอยได้เลยครับ
ในที่สุด โจโจ ก็รู้ใจตัวเองในตอนสุดท้าย เธอและซอนโอได้เคลียร์ใจต่อกัน แล้วเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางความรักและชีวิตของแต่ละคน แล้วโจโจก็ได้คู่กับฮเยยองในที่สุด ถึงแม้เธอจะยังไม่สามารถทำให้เลิฟอลามของเธอดังขึ้นบนมือถือของเขาได้เพราะฟังก์ชั่นโล่ที่ป้องกันไว้ แต่นั่นไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะเธอเลือกเขาแล้ว ส่วนซอนโอก็เลือกที่จะกลับไปขอคืนดีกับยุคโจ แม้ว่าเขาจะยังทำให้เลิฟอลามอีกฝ่ายดังไม่ได้ แต่คราวนี้เขาก็ตั้งใจว่าจะมาหาเธอตลอดเพื่อสักวันมันจะได้ดังขึ้นจริงๆ
ตอนสุดท้าย โจโจได้มาปรึกษากับด็อกกู เรื่องของเลิฟอลาม ด็อกกูอธิบายง่ายๆว่า สาเหตุที่โจโจไม่เคยมั่นใจในตัวเองว่าเธอรักใครกันแน่ แม้แต่ตอนนี้ที่เธอคบหากับฮเยยองแล้ว แต่ส่วนหนึ่งเธอก็ยังมีความคาใจอยู่เกี่ยวกับเลิฟอลาม ด็อกกูจึงให้ตัวล็อก (ตัวบันทึก) การทำงานของเลิฟอลามที่โจโจมีกับคนอื่น แต่เนื่องจากเป็นเทปรุ่นเก่า เมื่อโจโฉมาเปิดฟังกับฮเยยอง มันจึงไม่ทำงาน ทั้งสองคนก็ไม่คิดอะไรมาก ออกไปกินข้าวกัน แต่แล้วตัวล็อกก็เฉลยทุกอย่างว่า สิ่งที่โจโจคาใจมาตลอดว่าเลิฟอลามของเธอจะเป็นยังไงหากไม่ได้ใช่โล่กันไว้นั้น แท้จริงแล้วตลอดเรื่องราวของซีซันนี้ที่เธอกับเขาใช้เวลาร่วมกัน ทั้งหมดนั้นทำให้เลิฟอลามแจ้งเตือนมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนที่ด็อกกูพยายามบอกกับโจโจเช่นกันว่า มันดูออกง่ายมากๆว่าโจโจรักใคร เหมือนกับที่ลึกๆแล้วซอนโอก็ดูออกเช่นกันว่า คนที่โจโจรัก สุดท้ายก็ไม่ใช่เขาแล้ว
ที่จริงแล้ว บทสรุปของเรื่องราว มันก็ได้ซับซ้อนอะไรนัก ก็เหมือนที่ด็อกกูบอกไว้ในเรื่องว่า คนเราพึ่งพาเครื่องจักรมาเกินไปหน่อย แม้มันจะมีประโยชน์และเราก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงมันได้ก็ตาม แต่แท้จริงแล้วคนเราหากชอบใคร สิ่งที่ทำก็แค่บอกออกไป ถ้าทำไม่ได้ ก็แค่ลองทำซ้ำๆ เขียนถึงกันก็ได้ สักวันมันก็อาจจะกลายเป็นของจริงไปเอง ที่สำคัญที่สุดคือ เรามีความตั้งใจจะทำแบบนั้นหรือไม่ขนาดไหน
จัดว่านี่เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกาหลีของ Netflix ที่แม้ว่าด้านเนื้อหาและองค์ประกอบต่างๆจะยังคงใช้แบบสูตรสำเร็จ แต่ก็มีความพยายามพัฒนาบทและต่อยอดความสำเร็จจากภาคแรกให้ไปไกลกว่าเดิม รวมถึงการกล้าเล่นประเด็นด้านมืดของเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ใครจะดูเพื่อเอาความฟินๆจิ้นๆ ในสไตล์รักสามเส้าของเกาหลีแบบเดิมๆก็สามารถดูได้เพลินๆครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website