รีวิว No One Gets Out Alive (Netflix) หนังผีแนวจิกกัดอเมริกันดรีม ผู้อพยพ แต่ไปไม่สุดสักทาง
No One Gets Out Alive
สรุป
หนังผีดราม่าจิกกัด “อเมริกันดรีม” ปัญหาผู้อพยพ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเชื้อชาติ ค่าแรงขั้นต่ำ การเหยียดชนชั้น โดยใส่เรื่องความเชื่อเรื่องพิธีกรรมโบราณ และแฝงการวิพากษ์สถาบันครอบครัวในยุคปัจจุบัน แต่น่าเสียดายที่หนังไปไม่สุดสักทาง
Overall
6/10User Review
( votes)Pros
- หนังมีประเด็นที่ดีมากหลายอย่าง ที่กล้าใส่เข้ามาในหนังผี
- นางเอกแสดงดี น่าเอาใจช่วย
- มีพากย์ไทย
Cons
- ไม่เฉลยที่มาของปริศนาในเรื่องเลย
- ไปไม่สุดสักด้าน ทั้งที่ปูทางมาดีมาก
- ทิ้งประเด็นที่น่าสนใจของหนังไปง่ายๆ
- ใช้เวลาเล่าเรื่องดราม่าของนางเอกนานไปหน่อย
ADBRO
No One Gets Out Alive Netflix รีวิว ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ดัดแปลงจากนิยายของ Adam Nevill ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวผู้อพยพจากเม็กซิโกที่เข้ามาแสวงหาโชคในสหรัฐอเมริกา เป็นหนังสยองขวัญที่แฝงประเด็นของชีวิตจริงได้น่าสนใจ เสียดายที่ไปไม่สุดสักทาง
หนังความยาว 1.25 ชม. มีพากย์ไทย กำกับโดย ซานติอาโก้ เมงกินี่ รับชมได้เลยใน Netflix
ตัวอย่าง No One Gets Out Alive Trailer
No One Get Out Alive เรื่องย่อ
เรื่องของ แอมบาร์ หญิงสาวผู้อพยพจากเม็กซิโกที่เข้ามาหางานทำในสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้เธอต้องเจอปัญหาชีวิตมากมาย ทั้งการดูแลแม่ที่ป่วยหนัก
แต่เมื่อเข้ามาในสหรัฐแล้วหวังจะสานฝันแบบอเมริกันดรีม เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับโลกความจริงสุดโหดร้าย ทั้งปัญหาค่าแรงต่ำ ปัญหาการไม่ยอมรับผู้อพยพในที่ทำงานหลายแห่ง ปัญหาการหลอกลวงโกงเงินด้วยกันในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน การใช้อำนาจที่ดูไร้น้ำใจของเจ้านายผิวขาว ไปจนถึงปัญหาเรื่องสถานที่อยู่ เมื่อเธอเลือกเช่าอาศัยในบ้านพักใหญ่โตแห่งหนึ่ง แต่ในบ้านเช่านั้นเธอกลับพบเจอเรื่องแปลกประหลาดสุดสยองเกินคาดคิด แล้วเธอจะหาทางออกหรือเอาตัวรอดได้ยังไงในเมื่อเจอแต่ปัญหารุมเข้ามาทุกทาง แล้วตัวเธอเองก็มีปมความลับที่ไม่ได้บอกใครอยู่ด้วย
ตัวหนังมีความจิกกัดและวิพากษ์แนวคิดและความฝันเก่าๆของคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา ในแบบ “อเมริกันดรีม” และเล่นกับประเด็นความเชื่อของคนท้องถิ่นและพิธีความเชื่อสมัยโบราณ อีกทางหนึ่งก็แฝงการวิพากษ์สถาบันครอบครัวในยุคปัจจุบันไปด้วย
No One Gets Out Alive รีวิว
ต้องชมเชยก่อนว่า หนังมีความพยายามที่ดีในการใส่ประเด็นผู้อพยพในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่ประเด็นใหม่ มีการทำหนังลักษณะนี้ออกมาเยอะในช่วงหลัง ตัวอย่างเช่นเรื่อง His House ดูรีวิวได้ที่ลิ้งก์นี้
ซึ่งการที่เรื่องใส่ประเด็นผู้อพยพและความยากลำบากนี้เข้ามาเป็นปมสำคัญอย่างหนึ่งของตัวละครนางเอก ทำให้เนื้อหาตรงนี้น่าติดตามมาก แต่ที่จริงแล้วหากนับในความเป็นหนังผี ถือว่าค่อนข้างทำได้แย่กว่าที่คิดและคาดหวังไว้
ตัวหนังใช้เวลาปูเรื่องและที่มาของเรื่องสยองขวัญได้ชวนงง และใช้เวลานาน ซึ่งปรากฏว่าหนังทำในพาร์ทดราม่าเรื่องปัญหาชีวิตของชนชั้นแรงงานและผู้อพยพในสังคมอเมริกันซึ่งเป็นกลุ่มคนนอกที่ถูกละเลยได้ดีและน่าสนใจกว่าซะอีก ชนิดที่ว่าหากตัดเรื่องผีๆ ออกไปแล้วบอกเล่าในแง่ของการเป็นหนังแนวตัวละครสู้ชีวิตและวิพากษ์สังคมอเมริกัน ในส่วนนี้ทำได้น่าสนใจมากกว่า แล้วที่สำคัญเลยคือหนังใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง หมดไปกับประเด็นดราม่าของนางเอกจากปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามา โดยมีเรื่องผีเข้ามาแทรกเป็นส่วนหนึ่งให้เห็นเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้มาในแนวตุ้งแช่เท่าไรนัก
ตรงนี้เองที่มันกลายเป็นข้อเสียมากๆ อีกอย่างของหนัง นั่นก็คือ การที่มัน “ไปไม่สุดสักทาง” เมื่อหนังเลือกจะเปิดเรื่องราวด้วยภาพแนวฟุตเทจ ขับเน้นความลี้ลับของความเชื่อโบราณ แล้วเดินเรื่องด้วยแนวดราม่าชีวิตตัวละคร ที่มีเรื่องสยองแทรกเข้ามา ปนกับปมในอดีตของนางเอกและแม่ กับปัญหาต่างๆ ที่นางเอกต้องเจอในการใช้ชีวิต หนังใช้เวลาในส่วนนี้มากเสมือนว่ามันคือพลอตหลัก ส่วนการเข้ามาเช่าบ้านแปลกๆ ที่มีสิ่งลี้ลับกลับเป็นเรื่องรองในเกือบชั่วโมงแรก ก่อนที่มันจะกลายเป็นไคลแมกซ์หลักของเรื่อง แล้วโยนความดราม่าทั้งหมดที่ตัวละครเผชิญในชีวิตเกือบหนึ่งชั่วโมงที่รับชมทิ้งไปแบบไม่เหลือซาก
ในช่วงท้ายเรื่องเราจะได้เห็นตัวปีศาจออกมาเต็มๆ ซึ่งตรงนี้ CG ทำออกมาในระดับกลางๆ คือไม่ได้แย่มากแต่ก็ไม่ได้ดีมากเหมือนกัน แต่ก็ถือว่าให้คะแนนในแง่ดีไซน์ของปีศาจที่ทำออกมาวิปลาส น่าสนใจใช้ได้ แต่ที่มาที่ไปของปีศาจนี่ไม่ชัดเจนเอามากๆ เหมือนจะบอกว่ามันคือปีศาจจากตำนานโบราณ แล้วคนบังเอิญไปขุดเจอกล่องที่ผนึกมันไว้ขึ้นมา ช่วงต้นเรื่องอุตส่าห์ใส่พลอตแนวลี้ลับตรงนี้เข้ามาน่าสนใจ แต่กลับไม่มีการเฉลยใดๆ ทั้งนั้น แม้จะทิ้ง Hint บางอย่างไว้แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลี่คลายปริศนาเลย เหมือนหนังต้องการทิ้งไว้เป็นปริศนาไปเลยว่า ไม่ต้องรู้ที่มาของเจ้าปีศาจนี่ก็ได้
หนังยังมีการเล่นประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวในมุมดาร์กไซด์ ทำให้เราเห็นว่าความสัมพันธ์และยึดติดของคนในครอบครัวนั้น แม้จะเป็นเรื่องดี แต่ในบางครั้งมันก็อาจเป็นพิษร้ายต่อผู้คนทั้งต่อตัวเองและต่อคนอื่นได้เหมือนกัน
ตัวหนังยังมีความรุนแรงและดิบเถื่อนค่อนข้างมาก เป็นหนังเรต 18+ มีฉากเลือดสาด ฆ่ากันแบบโหด
ตรงนี้เป็นสปอยบางส่วนของหนัง
ในตอนท้ายเรื่อง หนังก็ไม่ได้ฟันธงสรุปว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับชีวิตวายป่วงของนางเอกและตัวละครในเรื่อง ผู้เขียนเองก็มีส่วนที่ไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับสารในหนังเกี่ยวกับการทำปิตุฆาต เสมือนหนังต้องการบอกในอีกแง่ว่าถ้าคนรุ่นใหม่อยากได้ชีวิตอิสระหรือหลุดพ้นจากภาระต่างๆ คุณต้องละทิ้งครอบครัวของตนเอง ซึ่งปัญหาเรื่องการที่ตัวละครถูกผูกติดอยู่กับกับดักอะไรบางอย่างจนไปไหนไม่ได้นั้น ก็มีการสื่อผ่านตัวละคร เร้ด ผู้ดูแลบ้านเช่าในเรื่องที่เขาเองก็ไปไหนไม่ได้ ต้องติดอยู่ที่นี่เพราะพี่ชายของตน แล้วทุกคนที่ถูกฆ่าในบ้านหลังนี้ก็จะกลายเป็นผีติดอยู่ในบ้านหลังนั้น ไปไหนไม่ได้ ตรงนี้อาจเหมือนต้องการสื่อถึงชีวิตของคนเราก็เป็นได้ที่ติดกับดักของสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวของแต่ละคนเอง
ภาพรวมแล้ว เป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำของ Netflix ที่พยายามจับประเด็นทางสังคมในสหรัฐ ปัญหาผู้อพยพ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และอื่นๆ แทรกเข้ามาในหนังผี แต่กลับไปไม่สุดสักทาง สิ่งที่พอจะประคองให้ทนดูหนังได้จนจบคือเรื่องราวสุดดราม่าและการแสดงของนางเอกที่พอใช้ได้ที่ชวนให้ติดตามว่าเธอจะแก้ปัญหาและเอาตัวรอดได้ยังไง นี่ถ้าหากปรับการเล่าเรื่องของหนังไปที่พิธีกรรมในเรื่อง ขยายบทสรุปชีวิตของนางเอกหลังเจอมรสุมต่างๆให้มากกว่านี้ หนังน่าจะดีกว่านี้มาก
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website