รีวิว Emily in Paris (Netflix) ซีรีส์ขายฝัน หญิงสาวอเมริกันในมหานครปารีส
Emily in Paris
สรุป
ซีรีส์ที่ขายฝันคนดูผู้หญิง ทำออกมาได้บันเทิง ดูง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผลงานจากผู้สร้าง Sex and the City ซีรีส์ผู้หญิงสุดแซ่บในอดีต
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- เรื่องเน้นบันเทิง ดูง่าย ย่อยง่าย
- เป็นซีรีส์ขายฝันคนดูผู้หญิงสุดๆ
- นางเอก เอมิลี่ ที่แสดงโดย Lily Collins สวยใสขาวผ่อง โดดเด่นมาก ใส่เสื้อผ้าขึ้นทุกชุด
- พระเอกงานดี สาวๆชอบแน่นอน
- สร้างบรรยากาศของปารีสให้ชวนน่าไปสักครั้ง
- เลือกคอเมดี้มากกว่าดราม่า (ซึ่งทำได้ดี)
Cons
- ไม่มีเส้นเรื่องหลัก เป็นแนวดูเรื่อยๆ เพลินๆ
- เดินเรื่องแบบสูตรสำเร็จ ไม่มีอะไรฉีกแนว
- เป็นซีรีส์สำหรับผู้หญิงและเพศที่สาม แต่คนดูผู้ชายข้ามไปเถอะ
- ตัวละครอื่นๆไม่ค่อยน่าจดจำมากนัก ชนิดที่หากมีซีซันสองแล้วตัวละครอื่นจะไม่มีบทเด่นอีกก็ไม่น่าแปลก
Emily in Paris Netflix รีวิว ซีรีส์ขายฝัน เมื่อสาวอเมริกันผู้คล่องแคล่วต้องย้ายมาทำงานให้บริษัทการตลาดที่มหานครปารีส ได้พบกับ หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ การเปลี่ยนแปลงของชีวิตทั้งในด้านความรัก การทำงาน และไลพ์สไตล์ในเมืองสุดหรู
ผลงานล่าสุดของ Darren Star ผู้สร้าง Sex and the City ซีรีส์ผู้หญิงสุดแซ่บในอดีต ฉายแล้วซีซันแรก 10 ตอน
ตัวอย่าง Emily in Paris Trailer
Emily in Paris เรื่องย่อ
เอมิลี่ คูเปอร์ (นำแสดงโดย Lily Collins) สาวสวยชาวอเมริกันที่เป็นพนักงานในบริษัทการตลาดในชิคาโก ที่มีความสามารถในด้านความคิดสร้างสรรค์และการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำการตลาด ได้ถูกส่งตัวจากบริษัทแม่ให้มาทำงานอยู่ที่บริษัทการตลาดในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยสาเหตุที่บริษัทในฝรั่งเศสถูกซื้อกิจการรวมกับบริษัทในสหรัฐ นี่จึงเป็นการขยับหน้าที่การงานในฝันของเอมิลี่ ที่จะได้มาทำงานในมหานครปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส แล้วยังเป็นเมืองในฝันของสาวอเมริกันอีกด้วย
แต่การมาทำงานอยู่ที่ปารีสก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเธอพบว่ามันมีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม แนวความคิด แล้วเธอยังมีปัญหาในการใช้ภาษาฝรั่งเศสด้วย อีกทั้งการมาทำงานที่ฝรั่งเศสก็ทำให้เธอต้องห่างจากแฟนหนุ่มของตัวเองที่อยู่ในสหรัฐ รวมถึงการกีดกันจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน ทำให้เธอต้องหาทางเรียนรู้ ปรับตัว ให้เข้ากับผู้คนในปารีส แต่ด้วยความที่เป็นคนคิดบวก ร่าเริง ก็ทำให้เธอได้พบเจอกับผู้คนที่ช่วยให้เธอสามารถเข้ากับปารีสได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เกเบรียล เชฟหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่เป็นเพื่อนร่วมอพารท์เมนต์ และ มินดี้ เพื่อนสาวจากจีนที่มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในปารีสแล้วเกิดถูกชะตากับเอมิลี่
นี่จึงเป็นเรื่องราวของ หญิงสาวสวยสุดมั่นจากสหรัฐ ที่มาผจญภัยเล็กๆทั้งในด้านชีวิตรัก การทำงาน และการค้นหาความฝันในมหานครปารีส
Emily in Paris รีวิว
ก่อนอื่นต้องบอกว่า นี่คือหนังผู้หญิง ที่มีความเป็นผู้หญิงสุดๆ สมกับงานสร้างสรรค์จาก Darren Star ผู้ที่เคยฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่าง Sex and the City ซีรีส์ผู้หญิงสุดแซ่บในอดีต ซึ่งคนดูจากยุค 90 จะคุ้นเคยกันมาบ้าง ต่อให้ไม่เคยดูก็ตาม
ที่จริงแล้วพลอตของเรื่องนี้เป็นอะไรที่ “สูตรสำเร็จที่เรียบง่ายมาก” แต่มันกลับเป็นส่วนที่สนุกของซีรีส์ เป็นความบันเทิงแบบย่อยง่าย เน้นขายฝัน ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนมากมาย ลักษณะการเล่าเรื่องราวเน้นความบันเทิงที่จับกลุ่มคนดูผู้หญิงโดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงานชัดเจนมาก ซึ่งลักษณะการเดินเรื่องแนวละครขายฝันแบบนี้จะมีแพทเทิร์นของมันอยู่ไม่กี่อย่าง แล้วเรื่องนี้ก็นำมาใช้งานเต็มที่เลย
ความเรียบง่ายของพลอตเรื่องนี้ก็คือ การพาตัวละครเอกมาอยู่ในสังคมที่แตกต่าง ไม่คุ้นเคย แล้วค่อยๆเรียนรู้ ปรับตัว แม้ว่าจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง แต่นางเอกของเราก็จะสามารถผ่านไปได้อย่างสวยงาม รวมถึงสามารถเปิดใจคนรอบข้างได้ รวมถึงได้ทั้งชีวิตรักและชีวิตการทำงานทีดีขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งเรื่องนี้ก็เลือกที่จะจับนางเอกอย่าง เอมิลี่ คูเปอร์ ที่ถูกวางบทมาเป็นสาวสวยไฟแรง ทำงานเก่ง มีความคิดสร้างสรรค์ตามสไตล์หญิงสาวอเมริกันยุคใหม่ ให้ได้มาทำงานอยู่ในมหานครปารีสที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีสีสันและเป็นเมืองในฝันของหญิงอเมริกันทุกคน จากนั้นก็สร้างสถานการณ์ต่างๆที่พาตัวละครไปเจอกับหนุ่มฝรั่งเศสเจ้าเสน่ห์ สุดฮอต (งานดี) ที่อาศัยอยู่ในที่อพาร์ทเมนต์เดียวกัน เริ่มสร้างความสัมพันธ์กัน จากนั้นแม้ว่านางเอกของเราจะมีอุปสรรคในที่ทำงาน แต่ก็ไม่ได้มาแนวดราม่าชวนอึดอัด เพราะจะมาแนวตลกเบาๆปนแซ่บๆในสไตล์เรื่องแบบผู้หญิงๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วนางเอกของเราก็จะค่อยๆเรียนรู้จากผู้คนรอบข้างแล้วก็ผ่านมันไปได้ รวมถึงเปิดใจบรรดาคนที่ตั้งแง่อคติกับเธอแต่แรกด้วย
ข้อเด่นมากของเรื่องนี้ ต้องยกเครดิตให้กับนักแสดงนำอย่าง Liy Collins ที่แสดงเป็น เอมิลี่ ได้ดีมากๆ หน้าตาสวยใสและผิวพรรณขาวผ่องของเธอเป็นตัวแบกซีรีส์ทั้ง 10 ตอนเอาไว้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้นักแสดงหนุ่มอย่าง Lucas Bravo ที่เล่นเป็น เกเบรียล เชฟหนุ่มของเรื่อง ก็งานดีสุดๆ น่าจะทำให้คนดูผู้หญิงใจละลายได้เลย
เรื่องนี้ยังมีมุขตลกจิกกัดปนล้อเลียนคนอเมริกันและคนฝรั่งเศส ที่มีช่องว่างความแตกต่างด้านความคิดอ่าน แนวคิดในการทำงาน วัฒนธรรม รวมถึงเรื่องภาษา ซึ่งหลายมุขคนไทยอาจจะไม่เก็ตมากนัก แต่เป็นมุขที่คนดูต่างชาติจะอมยิ้มกัน
นอกจากนี้อีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นคือ การสร้างบรรยากาศที่ชวนโรแมนติกในนครปารีส รวมถึงแฟชั่นต่างๆ ที่จัดกันมาพอสมควร แถมนางเอกของเราแต่งตัวแบบไหนก็ดูจะขึ้นไปซะหมดด้วย ทำให้ดูเพลินตาดี
อย่างไรก็ตาม หนังมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่ระหว่างเรื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่เลือกนางเอกมาทำงานที่ปารีส ถึงแม้ว่าในเรื่องจะอ้างว่าเธอมีความสามารถในด้านการตลาดสูง แต่นางเอกกลับศึกษาข้อมูลเรื่องฝรั่งเศสมาน้อยมาก แถมยังไม่ใช่คนที่พูดฝรั่งเศสได้ด้วย ซึ่งในแง่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าบริษัทที่มีการดีลแบบข้ามชาติ ก็น่าจะเลือกส่งคนที่มีทักษะด้านภาษาของประเทศนั้นมามากกว่า หรืออย่างน้อยก็ต้องให้เวลาเตรียมตัวในการเรียนภาษามากกว่านี้ แต่นางเอกของเรากลับเพิ่งจะมาเรียนเอาจริงจังหลังจากมาอยู่ปารีสแล้ว ตรงนี้เลยอาจจะแปลกอยู่สักหน่อย
อีกจุดด้อยก็คือ การเซตติ้งออฟฟิศของคนฝรั่งเศสที่เหมือนสร้างมาด้วยสายตาของคนอเมริกัน มันเลยออกมาในแง่มุมที่ว่า คนฝรั่งเศสไม่เก่งการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อการตลาดมากนัก (ซึ่งไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป) แต่ก็ยังถือว่าทำได้ดีในแง่การสะท้อนทัศนคติเรื่องแนวคิดการทำงานของคนฝรั่งเศสที่แตกต่างสุดขั้วจากคนอเมริกัน ที่คนอเมริกันมีความบ้างานและกระหายความสำเร็จมากกว่าหลายเท่า แต่คนฝรั่งเศสจะมีความ “ชิล” และชอบสนุกสนานมากกว่า มีความอารมณ์โรแมนติกและเปิดกว้างด้านการคบหาและเรื่องเพศมากกว่า
จุดด้อยอีกอย่างคือ ซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีเส้นเรื่องหลัก ไม่มีปมดราม่า ไม่มีการหักมุมซับซ้อน มันเป็นแนวเดินเรื่องไปเรื่อยๆ ให้ดูชีวิตรักและชีวิตการทำงานในสไตล์คอเมดี้เบาๆ ของนางเอกเอมิลี่ในปารีส (สมกับชื่อเรื่อง) ซึ่งในตอนจบของซีซันแรก ก็เป็นการจบแบบทิ้งปมไว้เล็กๆ สามารถที่จะสร้างภาคต่อได้เรื่อยๆ เช่นกัน
ในภาพรวมแล้วนี่เป็นซีรีส์ที่ “ขายฝัน” คนดูผู้หญิงในระดับสูง แต่ก็ทำออกมาได้บันเทิง ดูง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference