playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Succession ss1-2 (HBO) สงครามสืบทอดธุรกิจตระกูลใหญ่ คู่ควร Emmy Award

สรุป

สุดยอดซีรีส์อีกเรื่องของ HBO สงครามแย่งชิงการสืบทอดอำนาจในตระกูลลอยที่ครอบครองธุรกิจสื่อยักษ์ใหญ่ เล่าเรื่องแนว ดราม่าตลกร้าย จิกกัดสังคม ราวกับกำลังชมละครเชคสเปียร์แบบโมเดิร์น นักแสดงและการเขียนบทยอดเยี่ยม คู่ควรกับรางวัล Emmy Award 2020

Overall
9.5/10
9.5/10
Sending
User Review
4.5 (2 votes)

Pros

  • นักแสดงและการเขียนบทสุดยอดมาก
  • เล่าเรื่องยากๆให้ดูง่าย สนุก เป็นตลกร้ายแบบที่หาคนเลียนแบบยาก
  • พัฒนาการตัวละครดีเยี่ยม
  • ทำให้เห็นภาพของครอบครัวคนรวยได้สมจริงดี
  • มุมกล้องใช้ Hand Held ซูมเข้าออก เพื่อให้ดูสมจริงในการเล่าเรื่อง
  • พากย์ไทยดีมากๆ

Cons

  • เป็นซีรีส์ที่เน้นคุยทั้งเรื่อง อาจไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบแนวนี้
  • มุกตลกร้ายในเรื่องเป็นอารมณ์ขันสไตล์บริติชปนอเมริกันสูงมาก ถ้าคนไม่ถนัดแนวนี้อาจจะไม่เก็ต
  • บางคนอาจไม่ชอบแนวมุมกล้องสไตล์นี้

ADBRO

Succession ss1-2 HBO รีวิว เรื่องราวของ สงครามการสืบทอดอำนาจในตระกูลลอย ที่ครอบครองธุรกิจสื่อยักษ์ใหญ่ เป็นซีรีส์แนวธุรกิจ ดราม่าปนตลกร้าย จิกกัดสังคมทุนนิยมในโลกของคนรวยที่เงินและอำนาจเป็นใหญ่

ด้านการแสดงและเขียนบทได้เข้าขั้นสุดยอด ซึ่งคู่ควรกับรางวัล Emmy Award 2020 ถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดซีรีส์ที่ควรรับชมกันทาง HBO Go

 Succession (2018) on IMDb

ตังอย่าง Succession ss1-2 HBO

Succession ss1-2 HBO

Succession ss1-2 เรื่องย่อ

เรื่องราวเกี่ยวกับ โลแกน รอย เจ้าของบริษัทเวย์สตาร์รอยโค ผู้นำเครือธุรกิจด้านสื่อยักษ์ใหญ่ ที่มีกิจการอยู่ในครอบครองมากมาย แล้วยังเป็นผู้ที่มีอิทธิพลทั้งทางด้านธุรกิจ การเมือง แม้แต่ประธานาธิบดี แต่ด้วยปัญหาสุขภาพรุนแรง ทำให้เขาเตรียมที่จะประกาศผู้สืบทอดตำแหน่ง

แต่ปรากฏว่าการตัดสินใจของเขากลับสวนทางกับความคาดหวังของบรรดาลูกๆ นั่นจึงนำมาซึ่งเรื่องราววุ่นวายในครอบครัวที่ทรงอิทธิพลราวกับราชวงศ์แห่งนี้

Succession ss1-2 HBO ตัวละคร
ภาพตัวละครหลักของ Succession

Succession ss1-2 HBO ตัวละคร

โลแกน รอย ผู้ก่อตั้งเวย์สตาร์รอคโค ครอบครองธุรกิจด้านสื่อและอื่นๆมายาวนาน เสมือนเป็นจักรวรรดิ เป็นผู้นำที่มีความสามารถ ฉลาดเลือดเย็น เขาใส่ใจเรื่องงานมากกว่าลูกทั้งสี่คน แต่มักพูดเสมอว่าทุกอย่างที่ทำเพื่อลูกของตนเอง ปัจจุบันแต่งงานกับมาร์เซีย ภรรยาคนที่สาม

โลแกนมีปัญหาสุขภาพเมื่อเรื่องเริ่มขึ้นในซีซันแรก ทำให้เขาต้องเตรียมที่จะส่งต่อให้ผู้สืบทอดตำแหน่งประธานคนต่อไป แต่การตัดสินใจของเขากลับเกิดความคาดหมายของพวกลูกๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้นำไปสู่การวางแผนโค่นล้มอำนาจของเขา ที่นำโดยลูกชายคนรองอย่าง เคนดัลล์

เคนดัลล์ รอย ลูกชายคนรองของโลแกนจากภรรยาคนที่สอง เป็นผู้บริหารระดับสูงของเวย์สตาร์รอคโค เขามุ่งมั่นพยายามพิสูจน์คุณค่าของตนเองว่าคู่ควรกับการเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานบริหารจากโลแกน แต่การตัดสินใจของโลแกนกลับทำให้เคนดัลล์ผิดหวังอย่างรุนแรง และนำไปสู่การวางแผนโค่นล้มอำนาจของพ่อตนเอง

ตัวเคนดัลล์มีปัญหาเรื่องการใช้ยามาก่อน แต่โดยเนื้อแท้แล้วเขาเป็นคนจิตใจดี ใจอ่อน และพยายามหาทางประนีประนอมในการทำธุรกิจ แต่เขาถูกมองว่าไม่เด็ดขาด ไม่น่าเชื่อถือ โลแกนให้เหตุผลว่า เขาไม่เหมาะสมจะเป็นผู้สืบทอดเพราะไม่เป็นนักฆ่ามากพอ

โรมัน รอย ลูกชายคนที่สามของโลแกนจากภรรยาคนที่สอง เป็นคนที่คิดอะไรนอกกรอบ ชอบจิกกัดผู้คนไปทั่ว แต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของคนภายนอกด้วย โลแกนเห็นว่าเขามีความสามารถในการเจรจากับผู้คน และต้องการให้เขาเข้ามารับบทบาทในการบริหารบริษัท

โดยบุคลิก โรมันเป็นคนประเภทติสต์แตก ปากไม่ค่อยดีนัก แต่คนอื่นก็ไม่ใส่ใจถือสา มักมีปากเสียงกับทั้งเคนดัลล์และชิฟบ่อยๆ แต่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบรักใคร่กันและตีกันไปในตัว เขายังมีปัญหาเรื่องทางเพศที่ไม่สามารถขึ้นเตียงกับแฟนตัวเองได้ แล้วต้องไประบายทางอื่นแทน

ชิฟวอน รอย ลูกสาวคนเดียวของโลแกนจากภรรยาคนที่สอง และเป็นน้องคนสุดท้องของตระกูล ทุกคนมักเรียว่า “ชิฟ” เธอต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเองจึงเข้าไปทำงานด้านการเมือง แต่โลแกนก็ต้องการดึงเธอกลับมาทำงานบริหารในบริษัท ต่อมาเธอได้แต่งงานกับทอม

ชิฟมีทัศนคติทางการเมืองที่สวนทางกับโลแกน ดังนั้นเธอจึงมีการติดต่อกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของพ่อเธอเอง เธอยังมีรสนิยมทางเพศในแบบเปิด ซึ่งทำให้เป็นปัญหากับทอมในภายหลัง

คอนเนอร์ รอย ลูกชายคนโตของโลแกนกับภรรยาคนแรก เขาพาตัวเองออกจากการแย่งชิงตำแหน่งในบริษัทและการสืบทอดอำนาจด้วยการไปทำธุรกิจฟาร์ม และเป็นสปอนเซอร์ให้แฟนสาวในการละคร ภายนอกดูเป็นคนสบายๆ แต่ลึกๆแล้วเขาก็ต้องการแสดงตัวให้เห็นว่ามีความสำคัญต่อครอบครัวเช่นกัน

ทอม วอมป์สแกน สามีของชิฟ ทำงานเป็นผู้บริหารในเวย์สตาร์ เป็นคนอารมณ์ดีที่มีนิสัยเสีย ชอบกลั่นแกล้งคนที่ด้อยกว่า เขาต้องมาเจอปัญหาเรื่องกิจการเรือสำราญในเครือบริษัท ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการคุกคามทางเพศและฆาตกรรม แล้วต้องหาทางสะสางปัญหาด้วยการทำลายหลักฐานต่างๆ แต่กลับทำให้เขาเดือดร้อนในภายหลัง

เกร็ก เฮิร์ซ หลานชายของอีวาน รอย พี่ชายของโลแกน เขามาขอความช่วยเหลือจากโลแกนเรื่องงาน จึงได้เข้าทำงานในบริษัท โดยต้องทำงานให้กับทอม เขาได้รับหน้าที่ให้ทำลายหลักฐานเกี่ยวกับคดีเรือสำราญ แต่กลัวว่าตัวเองจะซวยไปด้วยเลยเก็บเอกสารแล้วทำสำเนาบางส่วนไว้เพื่อเป็นหลักประกันให้ตนเอง แม้ภายนอกดูเหมือนคนเงอะงะ ไม่ฉลาด ซื่อๆ แต่กลับมีความคิดอ่านรอบด้าน และการกระทำของเขาถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวด้วย

ตัวละครของเกร็ก เป็นเสมือนตัวแทนคนดูซีรีส์เรื่องนี้ ที่ถูกจับโยนเข้ามาดูการแก่งแย่งภายในของครอบครัวใหญ่ ในขณะเดียวกันเขาก็ปรับตัวแล้วแสวงหาโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าในการงานไปด้วย

มาร์เซีย รอย ภรรยาคนที่สามของโลแกน เป็นคนที่ดูแลโลแกนที่สุขภาพย่ำแย่ แล้วเธอยังถูกวางตัวให้ได้มีอำนาจเพิ่มขึ้นซึ่งสร้างความไม่พอใจให้เหล่าลูกๆของโลแกน

เจอร์รี่ เคลล์แมน ผู้บริหารหญิงระดับสูงของเวย์สตาร์ เป็นเสมือนผู้ดูแลเรื่องราวทั่วไปให้ครอบครัวรอย เป็นคนที่รู้ตื้นลึกหนาบางแทบทุกเรื่องและรู้จักอยู่เป็น ภายหลังเธอมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับโรมัน

แฟรงก์ เวอร์นอน ซีโอโอของเวย์สตาร์ และเป็นเพื่อนสนิทกับโลแกนมานาน เป็นเสมือนผู้รับใช้ที่ภักดี แต่เขาก็ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงร่วมมือกับเคนดัลล์เพื่อโค่นอำนาจของโลแกน แต่ถึงแม้ว่าการต่อต้านของเขาจะล้มเหลว สุดท้ายโลแกนก็ยังดึงเขากลับมาทำงานด้วยอยู่ดี

Succession ss1-2 HBO
จากซ้ายไปขวา มาร์เซีย ทอม โรมัน เจอร์รี่ โลแกน เคนดัลล์ เกร็ก คอนเนอร์ ชิฟวอน

Succession ss1-2 HBO รีวิว

ซีรีส์เรื่องดังทางช่อง HBO นี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ด้วยการคว้ารางวัล Emmy Award 2019 มาครอบครอง ทำให้หลายคนอาจมีความสงสัยว่า เรื่องนี้มันสุดยอดขนาดนั้นเลยหรือ

คำตอบคือ มันสุดยอด คู่ควรจริงๆครับ

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้คว้ารางวัลมาครอง จุดเด่นหลักๆมีสองเรื่องคือ “การแสดง” และ “บท”

สำหรับนักแสดงในเรื่อง ดารานำได้ดาราอาวุโสอย่าง Brian Cox มารับบท โลแกน รอย เจ้าพ่อวงการสื่อผู้เลือดเย็น และกำลังมีปัญหาสุขภาพ ทำให้ต้องเตรียมผู้สืบทอดเพื่อจะส่งต่อตำแหน่ง เพียงแต่ลูกๆของเขาแต่ละคนดูจะไม่ค่อยมีความสามารถที่เหมาะสมกันมากนัก ซึ่งตัว Brain Cox โชว์ความสามารถในการแสดงระดับสุดยอดเอามากๆ ด้วยการเล่นให้ดูน่าเชื่อถือว่าเป็นอภิมหาเศรษฐีผู้เอาแต่ใจ บ้าอำนาจ เจ้าเล่ห์ เลือดเย็น แม้ภายนอกจะพูดเหมือนว่าทำทุกอย่างเพื่อลูกๆ ของตนเอง แต่ที่จริงแล้วทั้งหมดก็ดูเหมือนเพื่อความต้องการส่วนตนเท่านั้น

นอกจากนี้ เคนดัลล์ รอย ที่นำแสดงโดย Jeremy Strong ก็แสดงและตีบทแตกกระจุย เขาทำได้น่าเชื่อถือมากว่า นี่คือลูกเศรษฐีคนรวยที่พยายามที่จะพิสูจน์ตนเองให้พ่อได้ยอมรับ การทำงานด้านธุรกิจที่อ้างอิงหลักการและตำราต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็สามารถแสดงให้เรารู้สึกได้ว่า เขามีความไม่มั่นใจในตนเอง ดูไม่น่าเชื่อถือ และดูเหมือนจะเสียรู้ให้กับคู่แข่งทางธุรกิจบ่อยครั้ง แต่ในระหว่างเรื่อง เขาก็มีพัฒนาการที่ดูยอดเยี่ยมขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านวุฒิภาวะ ความคิดอ่าน การตัดสินใจ และมาถึงจุดพีคสุดๆในตอนจบของซีซันสอง ที่เขาได้แสดงการเป็น “นักฆ่า” แบบที่พ่อของเขาเคยกล่าวว่า สาเหตุที่เขาไม่เหมาะจะเป็นผู้สืบทอด เพราะเขายังไม่ใช่นักฆ่านั่นเอง

นอกเหนือจากตัวหลักทั้งสองคนที่ต้องมาขับเคี่ยวกัน นักแสดงคนอื่นๆก็ทำได้ในระดับมาสเตอร์พีซอย่างมาก ซึ่งบทของตัวละครหนึ่งที่ต้องชมเลยก็คือบทของ เกร็ก ที่นำแสดงโดย Nicholas Braun ซึ่งแม้ว่าเขาจะเป็นคนในตระกูล แต่ก็เป็นญาติที่ห่างๆ จากธุรกิจของครอบครัวที่ถูกโยนเข้ามาในวังวนการชิงอำนาจของตระกูล ซึ่งเขาก็เสมือนเป็นตัวแทนคนดู ที่ให้เราได้รู้เรื่องราวภายใน อีกทั้งคาแรคเตอร์นี้แม้ว่าจะถูกเซตมาให้ดูเป็นคนเงอะงะ พูดจาติดขัดๆ แต่เมื่อถึงเวลาจำเป็น เขาก็เป็นตัวละครที่ส่งผลต่อเหตุการณ์ภาพรวมของเรื่องอย่างคาดไม่ถึงด้วย

ในแง่ของการเขียนบท ต้องชื่นชมทีมงานและผู้สร้างอย่าง Jesse Armstrong เพราะเขาสามารถทำให้ซีรีส์ที่พล็อตเรื่องดูแล้วน่าจะหนักหน่วง ดราม่า ดูยาก กลับกลายเป็นเรื่องแนวตลกร้าย แฝงด้วยมุกจิกกัดในสไตล์บริติชและอเมริกันที่ลงตัวมากๆ ทำให้เรื่องนี้ดูสนุก ดูง่าย ไม่ยากเกินไป เพราะแม้ว่าประเด็นของเรื่องหรือสิ่งที่ตัวละครพูดคุยกันจะเต็มไปด้วยเนื้อหาที่ดูเครียดจริงจังอย่างมาก แต่การเล่าเรื่องกลับทำได้อย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยบทที่ครีเอทมาก ราวกับเป็น “เชคสเปียร์ในแบบโมเดิร์น” ที่บอกเล่าโศกนาฎกรรมและความขัดแย้งในครอบครัวใหญ่

ด้านโปรดักชั่น จัดว่าเป็นแนวทางของ HBO ที่ถนัดในช่วงหลัง ทั้งการใช้เทคนิคมุมกล้องแบบ Hand Held การซูมเข้าออก เพื่อให้ดูสมจริง

เพียงปัญหาก็มีอยู่เหมือนกันคือ คนที่เริ่มดูช่วงแรกอาจจะยังไม่ชินกับการเล่าเรื่องแนวนี้มากนัก ซึ่งถ้าคนดูเริ่มชินกับแนวทางการเล่าเรื่องของตัวซีรีส์มากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะสามารถดูได้แบบมาราธอนเลยทีเดียว

ด้านเนื้อหา ในซีซันแรก จะเน้นไปที่การวางแผนโค่นล้มอำนาจของโลแกน ที่นำโดยเคนดัลล์ แล้วซีรีส์ก็จะปูให้เรารู้จักบุคลิกนิสัยของตัวละครแต่ละคน สถานะของพวกเขา รวมถึงแรงขับดันที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจทำเรื่องต่างๆด้วย

ส่วนในซีซันสอง แนวทางเรื่องจะเปลี่ยนไป จากที่เป็นการต่อสู้ภายในครอบครัว กลายมาเป็นการคืนดีกันของพ่อและลูกๆ เพื่อร่วมมือกันแก้ไขวิกฤตที่ส่งผลต่อธุรกิจของครอบครัว แต่ก็จบซีซันลงด้วยการที่เคนดัลล์ตัดสินใจก่อกบฏเพื่อโค่นล้มโลแกนอีกครั้ง ซึ่งฉากสุดท้ายในซีซันสองนั้นทรงพลังเอามากๆ เป็นการแสดงระดับสุดยอดของดาราในเรื่อง คู่ควรกับรางวัลเอ็มมี่อย่างแท้จริง

สำหรับ Succession ss1-2 สามารถรับชมได้ทางช่อง HBO Go ซึ่งมีพากย์ไทยด้วย แล้วก็พากย์ไทยได้ดีมาก ในส่วนของ ซีซันสาม ก็ได้ประกาศสร้างต่อแล้วเช่นกัน

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference

https://www.imdb.com/title/tt8416494/episodes?ref_=tt_ov_epl

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!