รีวิว The Sleepover (Netflix) หนังครอบครัว แนวนักสืบ จอมโจร ที่ไปไม่สุดสักทาง
the sleepover
สรุป
หนังครอบครัวที่ผสมผสานระหว่างแนวนักสืบแบบ Spy Kid บวกจอมโจร แต่ทำออกมาแล้วมันไปไม่สุดสักทาง จากผู้กำกับ Pitch Perfect 3 แนะนำให้เตะเหตุผลทิ้งก่อนดู
Overall
6/10User Review
( vote)Pros
- หนังครอบครัว ดูเพลินๆ แฝงสาระเรื่องพ่อแม่ลูกเอาไว้
- เด็กๆน่าจะชอบ เพราะมีองค์ประกอบของหนังแนว Spy Kid
- พลอตตั้งต้นถือว่าดี
Cons
- ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เดินเรื่องไม่สุดทาง
- ใส่ประเด็นน่าสนใจมาเยอะ แต่ใช้ไม่คุ้ม พลอตโฮลเต็มเรื่อง
- ฉากแอ็กชั่นไม่ได้น่าจดจำเท่าไหร่ ตอนท้ายก็จบแบบง่ายๆ
The Sleepover Netflix รีวิว หนังครอบครัว ที่ผสมระหว่างแนวนักสืบแบบ Spy Kid บวกจอมโจร ที่ทำออกมาแล้วไปไม่สุดสักทาง โดยผู้กำกับ Pitch Perfect 3 และ Step Up All In One
ตัวอย่าง The Sleepover
The Sleepover เรื่องย่อ
เรื่องราวของครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่ง ที่มีพ่อแม่ผู้ระเบียบจัด กับลูกสาวคนโตในวัยกำลังต่อต้าน และลูกชายคนเล็กที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง พวกเขาใช้ชีวิตอย่างธรรมดาทั่วไป
แต่แล้วในคืนหนึ่ง ลูกๆในบ้านก็ได้ค้นพบความจริงน่าเหลือเชื่อว่า มาร์ก็อต แม่แสนเจ้าระเบียบของพวกเขา แท้จริงแล้วในอดีตคือ สุดยอดจอมโจร มาธิลด้า ที่มีฝีมือในการปล้นชิงระดับเทพ แล้วยังเคยร่วมงานกับเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลมาแล้ว แต่เพราะเธอต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข จึงได้เข้ามาอยู่ในโครงการพิทักษ์พยานของ FBI เปลี่ยนชื่อใหม่ แต่เนื่องจากคลิปวีดีโอที่ถ่ายแม่ของพวกเขาที่กำลังพูดจาข่มขู่เด็กเกเรที่มาขู่ลูกชายของเธอไว้เกิดแพร่ออกไป ทำให้พวกขบวนการโจรร้ายในอดีตก็ได้บุกเข้ามาในบ้านของเธอคืนนั้น แล้วจับสามีของเธอที่เป็นเพียงเชฟร้านขนมเป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับการให้เธอไปขโมยมงกุฎล้ำค่าของราชินีที่จะมาร่วมงานหนึ่งเอามา ทำให้พวกก๊วนเด็กๆที่บังเอิญได้เค้นความจริงจากเจ้าหน้าที่ FBI ต้องหาทางไปช่วยเหลือพ่อและแม่ของพวกเธอทำภารกิจ และเอาชีวิตครอบครัวธรรมดากลับคืนมาให่ได้
The Sleep Over รีวิว
ก่อนอื่น เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วทั้งตัวอย่างที่นำเสนอออกมาว่าเป็นหนังเด็ก หนังครอบครัว ที่ให้อารมณ์เหมือน Spy Kid ผสมกับหนังแนวโจรกรรมแบบฮาๆของฝรั่ง เพราะฉะนั้นเรื่องความสมจริงทุกอย่างนั้น “ให้เตะทิ้งออกไปให้หมด”
ต้องบอกตามตรงว่า เรื่องนี้จะดูสนุกได้ ถ้าคุณมีความเป็นเด็กสูง หรือถ้าเป็นเด็กที่ชอบดูหนังแนวนี้ เพราะนอกจากหนังจะยัดองค์ประกอบที่เด็กๆน่าจะชอบ ไม่ว่าจะเป็น
1.ครอบครัวที่ฉากหน้าเป็ครอบครัวธรรมดาที่เข้าขั้นน่าเบื่อและมีความเพี้ยนสุดๆ แต่กลับมีความลับเหลือเชื่อซ่อนเอาไว้
2.ฐานทัพลับที่มีไอเท็มไฮเทคเจ๋งๆไว้สำหรับทำภารกิจ ให้อารมณ์เหมือน Spy Kid
3.การวางปริศนาที่เชื่อมโยงเอาไว้ ให้เด็กๆตามรอยไป
4.การใส่ประเด็นเรื่อง ความไม่เข้าใจกันระหว่างวัยรุ่นและพ่อแม่
แต่แน่นอนว่า นี่คือหนังเด็ก เพราะฉะนั้นอย่าไปใส่ใจกับความสมจริงอะไรมากนัก เพราะทั้งเรื่องมีพลอตโฮลเต็มไปหมดที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่า แม่ของครอบครัวนี้ ไปฝึกวิชาการต่อสู้ระดับทหารมาจากไหน แล้วเธอไปได้พวกอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆที่ถึงระดับสายลับข้ามชาติมาได้ยังไง ถึงแม้ตัวเรื่องจะใส่พลาตมาว่า เธอเคยทำงานให้องค์กรมาเฟียมาก็ตาม แต่ก็ยังไม่พอที่จะอธิบายความเว่อร์ของตัวแม่อยู่ดี
ตัวเรื่องจะมีการแยกเล่าเป็นสองเส้นเรื่องหลักคือ ฝั่งเด็กที่มีก๊วนเด็กสี่คนเป็นตัวนำ ซึ่งนักแสดงเด็กทั้งสี่คนทำได้ไม่เลว การแสดงยังดูล้นๆขาดๆเกินๆไปบ้าง ยังพอให้อภัยได้ มีบางซีนที่ทำได้ดีมากๆด้วยซ้ำ
อีกเส้นเรื่องจะเป็นการเดินเรื่องทางฝั่งผู้ใหญ่ ที่มีการแทรกเรื่องตัวตนปลอมๆทีต้องสร้างขึ้นมา ว่าแท้จริงแล้วแบบไหนกันแน่ที่เป็นตัวตนแท้จริง
น่าเสียดายว่า ทั้งสองเส้นเรื่องแม้จะดูน่าสนใจ แต่หนังมันไปไม่สุด จะเลือกเน้นโทนสายลับแนวไฮเทค ก็ไม่ได้ใช้ของหรืออุปกรณ์อะไรเลย จะมาแนวสายลับแนวบู๊แบบ Mr.& Mrs.Smith ก็ทำไม่ถึง มีการสืบสวนตามรอยในแบบดาวินชีโค้ด ก็ไม่ได้เจ๋งอะไรนัก คือทุกอย่างมันดูครึ่งๆกลางๆไปหมด แล้วหนังพยายามหยิบทุกอย่างมารวมกัน มันเลยดูเหมือนเป็นการยำใหญ่สารพัดพลอตเรื่องแนวนี้เข้ามา แต่ไม่กลมกล่อม บทพูดหรือไดอาล็อคก็เป็นแนวเชยๆ ที่ไม่ได้มีการพัฒนาอะไรมากนัก ตัวร้ายที่มีการหักมุมอาจจะร้องว้าวบ้าง แต่ก็ให้อารมณ์เฉยๆ ไม่น่าแปลกใจอะไรนักหนา
ตัวหนังอาจจะมีข้อดีในแง่ Coming of Age ที่พยายามให้คนเป็นพ่อแม่รู้จักฟังลูกที่เป็นวัยรุ่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีฉากซึ้งที่น่าจดจำอะไรเลย ตรงนี้ถ้าหากเทียบกับหนังเด็กในแนวเดียวกันแล้ว เรื่องนี้ถือว่าทำได้แย่ ทั้งๆที่พลอตเรื่องถือว่าน่าสนใจ น่าจะต่อยอดได้ด้วยซ้ำ
ในแง่เทคนิคการเดินเรื่อง บังคับให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นภายในคืนเดียว จึงเข้าใจว่าเป็นที่มาของชื่อเรื่อง แต่จริงๆการผจญภัยในค่ำคืนเดียวแบบนี้ก็ไม่ใช่ของใหม่อะไรสำหรับหนังแนวนี้
ภาพรวมแล้ว เป็นหนังเด็กแบบดูได้ทั้งครอบครัวของ Netflix ที่พลอตดี แต่น่าเสียดายว่าเล่าเรื่องได้แย่ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ น่าเสียดายเซตติ้งของเรื่องที่ดูเหมือนมีความลึก แต่การนำเสนอทำให้เรื่องนี้เป็นหนังเด็กอีกเรื่องที่น่าจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ได้น่าจดจำเท่าไรนัก แต่ก็เหมาะจะให้เด็กๆได้ดูอยู่เหมือนกัน ส่วนผู้ใหญ่จะข้ามไปเลยก็ได้ครับ นอกจากว่าจะดูเป็นเพื่อนกับลูกๆ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website