playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Summit of the Gods อนิเมชั่นเพื่อคารวะเหล่านักปีนเขาทั่วโลก งดงาม ตระการตา

สรุป

ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดัดแปลงจากเรื่องจริงบางส่วนของเหล่านักปีนเขาที่มีอยู่จริง เสมือนต้องการคารวะเส้นทางชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น งานสร้างดีเยี่ยม คู่ควรกับรางวัลใหญ่ของปีนี้มาก

Overall
9/10
9/10
Sending
User Review
4.5 (2 votes)

Pros

  • เดินเรื่องเร็ว กระชับ
  • CG กราฟิก สวยมาก งานภาพมีเอกลักษณ์สูง
  • ถ่ายทอดบรรยากาศของภูเขาเอเวอร์เรสต์ได้สุดยอด อลังการ สวยงามมาก
  • เชื่อมโยงเรื่องของนักปีนเขาที่มีตัวจริงในประวัติศาสตร์กับตัวละครสมมติได้ดี
  • เป็นภาพยนตร์ที่คารวะนักปีนเขาทั่วโลก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ไม่ใช่อนิเมชั่นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
  • ช่วงแรกเล่าเรื่องแบบย้อนไปมาดูงงไปนิด ต้องใช้เวลาถึงจะชิน
  • น่าจะมีการสรุปและอธิบายเหตุการณ์ของมัลโลรี่เพิ่มเติมในตอนจบ

ADBRO

The Summit of the Gods Netflix รีวิว เหล่าเทพภูผา อนิเมชั่น เล่าเรื่องของเหล่านักปีนเขาที่ต้องการพิชิตเอเวอร์เรสต์ สวยงาม ตระการตา เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นจากทีมสร้างของฝรั่งเศสที่ดัดแปลงจากต้นฉบับมังงะญี่ปุ่นได้สุดยอดมาก

เรื่องยังอ้างอิงประวัติบางส่วนของนักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ชื่อดังสองคนคือ จอร์จ มัลโลรี่ และ ฮาเสะกาวะ ซึเนโอะ อนิเมชั่นเรื่องนี้เลยเสมือนเป็นการแสดงความคารวะต่อวิถีชีวิตของเหล่านักปีนเขาในประวัติศาสตร์ทั่วโลก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงจากการปีนเขาเป็นอาชีพ นักปีนเขาสมัครเล่น หรือนักปีนเขาอีกจำนวนมหาศาลที่เสียชีวิตไปบนภูเขาสูงอันตรายทั่วมุมโลก และแม้แต่คนที่ต้องเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้เดินทางไปปีนเขาตามความฝันของพวกเขาเอง

หนังความยาว 1.35 ชม. ฉายครั้งแรกในเทศกาลเมืองคานส์ เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2021 จากนั้นจึงมีการเข้าฉายแบบจำกัดโรงในสหรัฐเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ส่วนผู้ชมทั่วโลกสามารถรับชมได้เลยใน Netflix พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งคาดหวังได้เลยว่าหนังจะได้ส่งชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ด้านอนิเมชั่นของปีนี้แน่นอน แล้วก็มีสิทธิสูงมากที่จะคว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกสักอย่างในปีนี้ด้วย

 The Summit of the Gods (2021) on IMDb

ตัวอย่าง The Summit of the Gods Trailer

The Summit of the Gods Netflix Netflix รีวิว เหล่าเทพภูผาThe Summit of the Gods เรื่องย่อ

เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ ฮาบุ จิโร่ นักปีนเขาผู้มีความทะเยอทะยานที่จะพิชิตเขาเอเวอร์เรสต์ที่วันหนึ่งกลับหายตัวไปอย่างปริศนา หลายปีต่อมา ฟุจิตะ นากามาจิ นักข่าวสายปีนเขาที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการออกเดินทางไปถ่ายภาพกลุ่มนักปีนเขาในหลายพื้นที่ กลับบังเอิญพบชายที่เขาสงสัยว่าจะเป็นฮาบุในตรอกแห่งหนึ่งที่เนปาล และพบว่าอีกฝ่ายมีกล้องโบราณที่เชื่อว่าจะเป็นของ จอร์จ มัลโลรี่ นักปีนเขาชาวอังกฤษผู้ตั้งมั่นว่าจะพิชิตเอเวอร์เรสต์ให้ได้ตั้งแต่ปี 1924 แต่แล้วก็หายสาบสูญไป ทำให้ทุกฝ่ายคิดว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว

เรื่องราวเลยจะเล่าเป็นเส้นเรื่องสองส่วน นั่นคือเส้นเรื่องที่ ฟุจิตะต้องการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับฮาบุ ว่าจากการเป็นนักปีนเขาหนุ่มไฟแรงผู้มีความทระนงตัวอย่างถึงขีดสุด แต่ในระหว่างนั้นกลับต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้ นั่นคือ ฮาเสะกาวะ ซึเนโอะ ซึ่งเป็นนักปีนเขาชาวญี่ปุ่นที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์และสามารถพิชิตยอดเขาสำคัญขอเทือกเขาแอลป์ได้เป็นคนแรกในญี่ปุ่น และด้วยโศกนาฏกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้นก็ทำให้ฮาบุเลือกที่จะปีนเขาเพียงลำพังคนเดียวมาตั้งแต่นั้น

ส่วนอีกเส้นเรื่องคือการที่ ฟุจิตะ ต้องออกตามหาฮาบุเพื่อขอไปร่วมปีนเขาเอเวอร์เรสต์ เพื่อจะถ่ายภาพการเดินทางของเขาไว้ด้วย ซึ่งก็นำไปสู่การผจญภัยเสี่ยงตายในระหว่างการปีนเขาที่พวกเขาเลือกเส้นทางสุดอันตรายที่ยังไม่เคยมีใครผ่านไปได้เพื่อจะไปให้ถึงยอดเขาเอเวอร์เรสต์ นำไปสู่ช่วงเวลาแห่งการลุ้นระทึกในช่วง 40 นาทีสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้

The Summit of the Gods Netflix Netflix รีวิว เหล่าเทพภูผาThe Summit of the Gods รีวิว

ตัวเรื่องดัดแปลงจากต้นฉบับนิยายของ บาคุ บูเมะมาคุระ เมื่อปี ค.ศ. 1998 ซึ่งได้ถูกแปลงออกมาเป็นการ์ตูนมังงะของ จิโร่ ทานิงุจิ ทั้งหมด 5 เล่มจบ แล้วก็เพิ่งสร้างฉบับคนแสดงไปเมื่อปี ค.ศ. 2016 ที่ผ่านมา ในที่สุดจึงได้มีการสร้างเป็นอนิเมชั่นในปี ค.ศ. 2021 นี้เอง

ซึ่งก่อนอื่นคงต้องบอกว่า ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้เสมือนสร้างขึ้นมาเพื่อเคารพและคารวะต่อบรรดานักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยสองคนที่เรื่องนี้ต้องการแสดงความคารวะเป็นพิเศษ ก็คือ จอร์จ มัลโลรี่ และ ฮาเสะกาวะ ซึเนโอะ สองนักปีนเขาที่ต้องการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ให้ได้ แต่คนแรกเสียชีวิตไปในปี ค.ศ. 1924 โดยที่ไม่มีใครค้นพบศพเป็นเวลาหลายสิบปี ส่วนคนที่สองเสียชีวิตในระหว่างการปีนเขาบริเวณอัลแตร์สองในปี ค.ศ. 1991

เรื่องนี้ยังสามารถผูกโยงความเกี่ยวข้องกับตัวละครทั้งสองให้เข้ากับเนื้อเรื่องหลักได้อย่างน่าทึ่ง ผ่านทางตัวละครสมมติอย่าง ฮาบุ นักปีนเขาอัจฉริยะผู้สร้างสถิติในการปีนเขาสุดแสนยากเอาไว้ได้ แต่กลับมาโดน ฮาเสะกาวะ ซึ่งเก่งกาจกว่าทำลายสถิติลง ทำให้เขาตัดสินใจที่จะแข่งขันและไล่ตามอีกฝ่ายในการปีนเขาหลายแห่ง แต่ก็ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ แถมยังถูกช่วยชีวิตจากทีมงานของอีกฝ่ายด้วย

อีกเส้นเรื่องหนึ่งจะเป็นการเล่าผ่านสายตาและการสืบค้นหาของ ฟุจิตะ นักข่าวสายปีนเขาที่เบื่อหน่ายเหลือเกินกับการเดินทางไปมาทั่วโลกแล้วถ่ายภาพกลุ่มนักปีนเขาที่ตัวเขารู้สึกว่าไม่ได้เอาจริงเอาจังในการปีนเขาและยอมแพ้กันง่ายเกินไป กระทั่งเขาพบเบาะแสของฮาบุ และกล้องถ่ายรูปที่คาดว่าจะเป็นของมัลโลรี่ นักปีนเขาผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ซึ่งเขาคิดว่าในกล้องนั้นจะมีเบาะแสว่า แท้จริงแล้วมัลโลรี่ปีนขึ้นไปถึงยอดเขาเอเวอร์เรสต์หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของวงการปีนเขาทั่วโลกเลย

\ในช่วง 40 นาทีสุดท้ายของเรื่องนี้เองที่ต้องชื่นชมทีมสร้างอนิเมชั่นเรื่องนี้ เพราะฉากการปีนเขาที่เรื่องนำเสนอนั้น ทำได้สมจริง ลุ้นระทึก ซีนส่วนใหญ่ในช่วงปีนเขาแทบไม่มีไดอาล็อคพูดคุย แต่เรารู้สึกลุ้นและใจหายใจคว่ำไปกับการปีนเขาของตัวเอก โดยเฉพาะตัวฟุจิตะ ที่เป็นเสมือนตัวแทนคนดู ว่าในแต่ละสถานการณ์ที่เผชิญหน้านั้น เขาจะแก้ไขยังไง แล้วเอารอดชีวิตได้หรือไม่ ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของเหล่านักปีนเขามืออาชีพและสมัครเล่นทั่วโลก กับคำถามสำคัญที่ถูกโยนเข้ามาในเรื่องว่า จะเสียงชีวิตปีนเขาไปทำไม แล้วคำตอบที่ตัวละครมอบให้ก็เป็นอะไรที่งดงามไม่น้อย ตรงนี้ขอชมเชย ผู้กำกับ คนเขียนบท และทีมสร้างด้าน CG ทั้งหมด ที่ทำให้ฉากปีนเขาในเรื่องนี้สร้างออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างกันมา

The Summit of the Gods Netflix รีวิว เหล่าเทพภูผาแต่จุดอ่อนของเรื่องก็มีอยู่บ้าง เช่น บทสรุปของเรื่องราวที่ในอนิเมชั่นไม่ได้นำเสนอ โดยเฉพาะปริศนาของมัลโลรี่ ที่เป็นปมใหญ่ของเรื่องราวให้ฟุจิตะยอมเสี่ยงชีวิต ตรงนี้เข้าใจว่าภาพยนตร์อาจจะไม่ต้องการกระทบกระเทือนใจต่อลูกหลานของมัลโลรี่มากเกินไปก็เป็นได้ เพราะลูกหลานของเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ และเกี่ยวข้องกับวงการปีนเขาอีกด้วย

สรุปแล้ว นี่เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเกี่ยวกับการเส้นทางชีวิตของเหล่านักปีนเขา เสมือนต้องการคารวะและรำลึกถึงพวกเขาเหล่านั้น คู่ควรกับรางวัลใหญ่ของปีนี้มาก อาจจะดูแปลกไปสักหน่อยที่เป็นอนิเมชั่นสัญชาติฝรั่งเศสที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากต้นฉบับญีปุ่น มีพากย์ไทย รับชมได้เลยใน Netflix

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://en.wikipedia.org/wiki/The_Summit_of_the_Gods

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!