รีวิว The Witcher Nightmare of the Wolf Netflix ภาคแยกตำนานวิชเชอร์ เรื่องของเวเซเมียร์
The Witcher Nightmare of the Wolf
สรุป
หนังภาคแยกของ The Witcher แฟนๆห้ามพลาด เรื่องของ เวเซเมียร์ อาจารย์ของเกรัลต์ในวัยหนุ่ม ฉากแอ็กชั่นทำดี เป็นอนิเมชั่นตะวันตกมาตรฐานสูงของ Netflix
Overall
9/10User Review
( vote)Pros
- งานโปรดักชั่นคุณภาพสูงมาก
- ฉากแอ็กชั่นดีเยี่ยมสำหรับอนิเมชั่นตะวันตก
- เดินเรื่องสนุก ดูง่าย
- สำรวจโลกของวิชเชอร์ได้ดี
- มีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง
- มีการเชื่อมโยงไปที่ภาคหลัก
- มีพากย์ไทย
Cons
- เวลาจำกัดเลยบอกเล่าปมที่มาความขัดแย้งในสังคมของเรื่องได้น้อยไปหน่อย
- ดีไซน์ตัวละครยังแข็งไปนิด
The Witcher Nightmare of the Wolf Netflix รีวิว นักล่าจอมอสูร ตำนานหมาป่า ภาพยนตร์อนิเมชั่น ภาคแยกของ The Witcher สร้างโดยอ้างอิงโลกและเนื้อหาจากนิยายชื่อดังของ Andrej Sapkowski ที่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นแฟรนไชส์เกมที่โด่งดังและมียอดขายถล่มทลายทั่วโลก ส่วนฉบับนิยายถูกแปลออกไปหลายภาษา ล่าสุดทางแพรวสำนักพิมพ์ได้ซื้อลิขสิทธิ์แปลเป็นภาษาไทยออกมาแล้ว 3 เล่ม
สำหรับเรื่องราวในภาคแยกจะบอกเล่าชีวิตวัยหนุ่มของ เวเซเมียร์ อาจารย์ของเกรัลต์พระเอกในภาคหลัก ว่าเพราะอะไรเขาจึงกลายเป็นวิชเชอร์ แล้วชีวิตของเขาต้องเจออะไรหลังจากนั้นบ้าง ภาพยนตร์ยังบอกเล่าตำนานด้านมืดที่ไม่เคยถูกเปิดเผยของเหล่าวิชเชอร์ และสงครามความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์
งานสร้างอนิเมชั่นได้สตูดิโอ Nickelodeon Animation ซึ่งเป็นสตูดิโอเดียวกันกับที่สร้างผลงานชั้นยอดอย่าง The Legend of Korra มาแล้ว เรียกได้ว่าการันตีคุณภาพงานสร้าง ส่วนงานกำกับโดย ฮานควางอี ความยาว 1.23 ชม. รับชมได้เลยใน Netflix มีพากย์ไทยด้วยครับ
The Witcher Nightmare of the Wolf Netflix Trailer
The Witcher Nightmare of the Wolf เรื่องย่อ
สำหรับเนื้อหาในอนิเมชั่นเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยในวัยหนุ่มของของ เวเซเมียร์ (อาจารย์ของ เกรัลต์ พระเอกในภาคหลัก) เขาเป็นนักรบวิชเชอร์ที่ในวัยเด็กมีชีวิตที่ยากลำบาก เพื่อที่จะหนีจากชีวิตเหล่านั้นเขาจจึงต้องต่อสู้ดิ้นรนจนได้กลายเป็นวิชเชอร์ ที่ออกรับจ้างทำงานปราบปีศาจไปทั่วเพื่อเงิน
เรื่องราวจะเป็นการเล่าย้อนไปตั้งแต่วัยเด็กของเวเซเมียร์ ว่าจากเด็กรับใช้คนหนึ่งกลับกลายมาเป็นวิชเชอร์ผู้ปราบปีศาจได้ยังไง ทั้งการเจอกับวิชเชอร์ที่เป็นแรงบันดาลใจอย่างเดลแกน ซึ่งจะใช้เวลาส่วนนี้ในครึ่งแรกของเรื่อง ส่วนในพาร์ทปัจจุบัน จะบอกเล่าชีวิตของเขาในฐานะวิชเชอร์ ที่บังเอิญเขาก็ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวใหญ่โตอย่างคาดไม่ถึง รวมถึงการได้หวนกลับไปพบกับอีลียาน่าซึ่งเป็นคนรักครั้งแรกที่เขาจากมาด้วย และทำให้เขาต้องจำรับภารกิจปราบปีศาจที่ต้องเดินทางร่วมกับแม่มดเทรทตา แต่ไปๆมามันกลับนำไปสู่ความหายนะของเหล่าวิชเชอร์รุ่นเก่า และการกำเนิดของเหล่าวิชเชอร์รุ่นใหม่
รีวิว
ก่อนอื่นต้องบอกว่า นี่คืออนิเมชั่นที่แฟนๆ The Witcher ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่คนที่ยังไม่ได้ดูฉบับซีรีส์หรือไม่ได้เป็นแฟนเกมก็สามารถดูเพลินๆ ได้ครับ
สำหรับตัวละครเอกในภาคหนังคือ เวเซเมียร์ ถือว่าเป็นตัวละครสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับ เกรัลต์ พระเอกของจักรวาล The Witcher เพราะเขาคืออาจารย์ที่สอนวิชาให้กับเกรัลต์นั่นเอง แล้วยังเป็นคนที่เกรัลต์นับถือมากเสมือนเป็นทั้ง พ่อ อาจารย์ และสหายด้วย ซึ่งในภาพยนตร์อนิเมชั่นก็จะมีการทิ้ง Hint และ Easter Egg เอาไว้ให้กับคนดูแบบโต้งๆกันเลยสำหรับคนที่ไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อน โดยเฉพาะเหรียญตราหมาป่าที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเกรัลต์ในภาคหลัก แล้วยังมีการใส่ Easter Egg ฮาๆ เช่นฉากนั่งแช่น้ำของเวเซเมียร์ที่เหมือนกับเกรัลต์ซึ่งเป็นลูกศิษย์
จุดแข็งที่ต้องชื่นชมเลยก็คือ การเล่าเรื่องที่ลื่นไหล สนุกมาก แม้ในช่วงแรกจะเป็นการเล่าย้อนกลับไปอดีตสลับกลับมาปัจจุบัน โดยเล่าถึงอดีตของเวเซเมียร์ว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไรในวัยเด็ก แล้วเจออะไรมาบ้างถึงทำให้เขาตัดสินใจด้วยตนเองที่จะกลายเป็นวิชเชอร์ ในขณะที่เด็กๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้อยากเป็น ถึงแม้ว่าจะเป็นพลอตและการเล่าเรื่องแนวดราม่าปกติที่พบเห็นทั่วไปแต่กลับเล่าเรื่องได้สนุก น่าติดตามชีวิตในวัยเด็กของเวเซเมียร์ แล้วก็จะมาเชื่อมโยงกับในยุคปัจจุบันได้พอดีด้วย
สำหรับเนื้อหาของเรื่องก็เหมือนเป็นการสำรวจชีวิตของเวเซเมียร์ ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงจุดพีคในฐานะวิชเชอร์ และการพบเจอกับคนรักครั้งแรกอีกครั้ง แล้วอีกข้อหนึ่งที่ไม่มีในฉบับซีรีส์ก็คือการเปิดสังคมของเหล่าวิชเชอร์ว่าพวกเขามีวิถีชีวิตอย่างไร รวมถึงกระบวนการสร้างวิชเชอร์ แล้วยังมีการเปิดเผยตัวละครเดลแกนที่เป็นอาจารย์ของเวเซเมียร์อีกทีหนึ่งด้วย
อีกจุดแข็งอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือฉากแอ็คชั่นซึ่งทำออกมาได้ดี ถือว่าเป็นระดับมาตรฐานสูงพอสมควรหากเทียบกับอนิเมชั่นของตะวันตก และถือว่าทำออกมาได้ดีใกล้เคียงกับอนิเมะญี่ปุ่นเลยด้วย ในบางจุดถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ตรงนี้คงต้องขอชื่นชมและให้เครดิตกับทีมงานของสตูดิโอ Nickelodeon Animation ซึ่งมีผลงานมาสเตอร์พีซอย่าง The Legend of Korra เรียกได้ว่านี่เป็นสตูดิโอผลิตอนิเมชั่นที่กำลังรับสร้างผลงานเยี่ยมๆ อีกหลายเรื่อง ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังในด้านโปรดักชั่น CG กราฟฟิกต่างๆ โดยเฉพาะฉากต่อสู้ในช่วงท้ายที่ทำออกมาได้เยี่ยมมาก แม้ว่าจะใช้เวลาน้อยไปก็ตาม
ภาพเปรียบเทียบเวเซเมียร์ ในหนังอนิเมชั่นและเวอร์ชั่นเกม ซึ่งเป็นช่วงสูงวัยแล้ว
สำหรับจุดที่น่าสนใจก็คือ เวเซเมียร์ เป็นตัวละครที่น่าจะได้ออกมามีบทสำคัญในซีซันสองของฉบับซีรีส์คนแสดงอย่างแน่นอน ดังนั้นใครที่เป็นแฟนซีรีส์เรื่องนี้แล้วกำลังรอซีซันสองที่จะเข้าฉายในเร็วๆนี้ก็ควรจะต้องดูเรื่องในภาคนี้ก่อนเพื่อซึมซับเรื่องราวของเวเซเมียร์ในวัยหนุ่มด้วยครับ ส่วนแฟนเกมเองก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
แล้วที่สำคัญคือ มีตัวละครเกรัลต์วัยเด็กโผล่ออกมาในเรื่องด้วย พร้อมกับบทสรุปที่ทิ้งท้ายเอาไว้ให้เราไปดูในฉบับซีรีส์ต่อ ซึ่งเรื่องราวของเวเซเมียร์หากจะเอามาสร้างเป็นหนังภาคแยกแบบนี้ต่อไปอีกก็ยังทำได้เยอะเลย
ด้านจุดด้อย มีนิดเดียวจริงๆคืองานภาพดีไซน์ตัวละครในสไตล์ตะวันตกที่ยังไงก็มีความแข็งๆอยู่และอาจจะไม่ถูกใจคนที่ชินกับอนิเมะญี่ปุ่น อีกจุดคือภาพรวมของโลกในวิชเชอร์ และความขัดแย้งในสังคมของเรื่องที่อาจจเล่าแบบห้วนๆไปหน่อยจนคนดูอาจจะไม่ได้อินอะไรกับปัญหาความขัดแย้งในเรื่องมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นจุดด้อยที่น้อยนิดเอามากๆ หากเทียบกับข้อดีของการ์ตูนเรื่องนี้ครับ อีกจุดหนึ่งก็คือเนื้อหาไม่ได้สลับซับซ้อนมากมายอะไรนัก เป็นเส้นตรง เน้นดูง่าย ซึ่งก็จะมีการเล่นกับประเด็นช่องว่างและความต่างทางด้านเวลาและอายุขัยของตัวละครเพื่อเพิ่มบทโรมานซ์และดราม่าเข้ามาด้วย ถือว่าเป็นความกล้าของผู้สร้างเหมือนกัน
ตัวเรื่องยังมีจุดหักมุมพอสมควร ตัวละครในเรื่องนี้มีความเป็นสีเทาสูงมาก แทบะหาคนที่เป็นสีขาวหรือสีดำไปหมดเลยได้ยาก ฝั่งวิชเชอร์เองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรนักหนา พวกเขาก็ทำสิ่งต่างๆเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ถึงขั้นลงมือทำบางเรื่องที่เป็นการทำลายชีวิตของบางเผ่าพันธุ์ แต่กลุ่มอื่นๆก็ไม่ได้ดีกว่ากันไม่ว่าจะเป็นพวกแม่มด เอล์ฟ และฝ่ายมนุษย์ เรียกว่าทุกฝ่ายล้วนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและผลประโยชน์ของตนเอง โดยมีเรื่องของศีลธรรมอยู่ด้านหลัง แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้เอาแต่ดาร์ค มืดมนสุดกู่เสมอไป เพราะในความมืดมิดก็ยังมีแสงสว่างและความดีงามแฝงอยู่เหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้จะถูกนำเสนอผ่านตัวของเวเซเมียร์ที่จะมีพัฒนาการในเรื่องตามลำดับ
สุรปภาพรวมแล้ว นี่เป็นหนึ่งในสุดยอดอนิเมชั่นของ Netflix ที่ต่อให้ไม่ใช่แฟนวิชเชอร์ก็ไม่ควรพลาด เป็นการสร้างมาตรฐานที่สูงเลยทีเดียวสำหรับงานอนิเมชั่นของตะวันตกครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website