playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว TITANS SS2 ซีรีส์ฮีโร่ DC ไททันส์ Netflix โรบินสู่ไนท์วิง รวมทีมฮีโร่วัยรุ่นดาร์กกว่าเดิม

สรุป

TITANS SS2 เป็นซีรีส์ฮีโร่ DC ใน Netflix ที่เล่าเส้นทางของโรบินสู่ไนท์วิง และการรวมทีมไททันส์ ซึ่งตัวละครทุกคนไม่ได้มีความสมบูรณแบบ ทุกคนมีขาวและดำ กำลังเติบโต ต้องเผชิญปัญหาดราม่าในแบบ Coming of Age ซึ่งกลับมารอบนี้ดาร์ก ดิบ โหด 18+ ยิ่งกว่าเดิม และที่โดดเด่นคือการเปิดตัว ซุปเปอร์บอย เพื่อขยายจักรวาลซีรีส์

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เป็นการขยายจักรวาลฮีโร่ DC ลงบนซีรีส์ที่แตกต่างจากของช่อง CW
  • ซีรีส์ฮีโร่ที่โคตรดาร์ก ดิบ ดราม่า สุดกู่ 18+
  • เป็นการเปิดตัวซุปเปอร์บอยอย่างยิ่งใหญ่
  • เจาะลึกปมทางจิตวิทยาของเหล่าฮีโร่อย่างถึงแก่น
  • ฉากแอ็กชั่นดุ เลือดสาด มีหลายฉากที่คาดไม่ถึงว่าจะนำเสนอ

Cons

  • พาร์ทสองของเรื่องเน้นหนักดราม่ามาก หลายคนอาจไม่ชอบ
  • CG และฉากแอ็กชั่นบางตอนดูใช้ทุนต่ำและลอยๆอยู่
  • ฉากสำคัญในตอนจบที่ปูมาไม่น่าเชื่อถือและทำลายภาพรวมของซีรีส์

TITANS SS2 รีวิว + สปอยล์ ซีรีส์ ฮีโร่ DC ไททันส์ Netflix จากโรบินสู่ไนท์วิง จากผู้ช่วยแบทแมนสู่ผู้นำนำทีมฮีโร่วัยรุ่น ที่กลับมารอบนี้ดาร์ก โหด ดิบ ดราม่า 18+ ยิ่งกว่าเดิม

ต้นฉบับของซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงจากการ์ตูน Teens Titans แต่รอบนี้เล่าเรื่องแบบโคตรดาร์ก โหด ดิบ เถื่อน 18+ และเรื่องราวก็ยิ่งเพิ่มความดราม่ามากขึ้นในซีซัน 2 นี้

สำหรับตัวละครหลักของทีม Teens Titans ตบเท้ามาเกือบครบในซีซันแรก ไม่ว่าจะเป็น โรบิน เรเวน สตาร์ไฟเออร์ บีสต์ รวมถึงตัวละครอื่นๆที่สมทบกันเข้ามาเพื่อทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และในซีซัน 2 ก็มีการเปิดตัวละครสำคัญคนใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในจักรวาลไททันส์ นั่นคือ ซุปเปอร์บอย Super Boy

 Titans (2018) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

 

TITANS ss2 Trailer ตัวอย่าง

 

TITANS SS2 เรื่องย่อ

ดิ๊ก เกรย์สัน หรือ โรบิน ผู้ช่วยชื่อดังของ แบทแมน เมื่อเติบโตขึ้นได้แยกตัวมาทำงานเป็นนายตำรวจสืบสวนที่เมืองดีทรอยต์ เพื่อหวังลืมอดีตที่เจ็บปวด รวมถึงความขัดแย้งบางอย่างกับ บรู๊ซเวย์น หรือ แบทแมน

แต่วันหนึ่งเขาก็ได้เข้ามาพัวพันกับคดีปริศนา เมื่อเด็กสาวแรกรุ่นที่ชื่อ เรเชล หรือ เรเวน ที่ได้มาขอความช่วยเหลือจากเขา รวมถึงการพบกันกับ คอรี่ หรือ สตาร์ไฟเออร์ และ การ์ หรือ บีสต์ ก็ทำให้ทั้งสี่คนต้องรวมพลังกันสู้แบบเฉพาะกิจ ซึ่งนำไปสู่การตั้งทีม ไททันส์ TITANS ซึ่งเป็นการรวมพลังของเหล่าฮีโร่วัยรุ่นที่ไร้หลักยึดและขาดจุดมุ่งหมายเหล่านี้ รวมถึงการฝึกฝนให้พวกเขาสามารถควบคุมและใช้พลังพิเศษเพื่อปกป้องผู้คนและปราบเหล่าร้ายได้

แต่ปรากฏว่าการรวมทีมไททันส์ครั้งใหม่นี้ก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คาดคิดไว้ เมื่อดิ๊กได้พบว่า “เดธสโตรก” Deathstroke นักฆ่าอันดับต้นๆของโลก ซึ่งเป็นอดีตศัตรูร้ายที่เคยขับเคี่ยวกับทีมไททันส์ชุดแรกมาก่อนได้หวนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับนำรอยแผลแห่งความผิดพลาดที่พวกเขาไม่อยากจดจำได้กลับมาด้วย แถมยังส่งผลกระทบที่ทำให้เกิดวามร้าวฉานกับสมาชิกไททันส์รุ่นปัจจุบันอีก

Titans ss2 จึงเป็นศึกใหญ่ที่ไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างฮีโร่และตัวร้ายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภายในจิตใจของเหล่าฮีโร่หนุ่มสาวที่อยู่ระหว่างการเติบโตและการยอมรับในความผิดพลาดของตนเองด้วย

TITANS SS2 ซีรีส์ฮีโร่ DC ใน Netflix สปอยล์ ตอนจบ โรบิน ไนท์วิง

TITANS SS2 ตัวละคร

มีตัวละครเพิ่มบางตัวสำหรับในซีซันนี้ และก็ทำให้ทีมไททันส์รวมตัวครบทั้งชุดแรกและรุ่นปัจจุบัน

titans ss2 ไททันส์ netflix ฮีโร่ DC ไนท์วิง โรบิน
ภาพเปรียบเทียบ ไนท์วิง ในซีรีส์ และฉบับการ์ตูนคอมิค DC เป็นหนึ่งในตัวละครที่ถูกคาดหวังสำหรับการสร้างลงซีรีส์เรื่องนี้ไว้สูงมาก

ดิ๊ก เกรย์สัน (Richard Dick Grayson) หรือ โรบิน Robin ผู้เคยมีอดีตฝังใจในวัยเด็ก พ่อและแม่เป็นอดีตนักแสดงละครสัตว์ที่เสียชีวิตระหว่างการแสดง ดิ๊กได้เห็นภาพที่พวกเขาเสียชีวิตเมื่อวัยเด็กจึงเกิดความฝังใจ จึงกลายเป็นเด็กกำพร้า เขาถูกรับเลี้ยงโดย บรู๊ซ เวย์น หรือตัวจริงก็คือ แบทแมน จากนั้นจึงได้ร่วมงานเป็นผู้ช่วยในฐานะของโรบิน เพื่อปราบเหล่าอาชญากรในเมืองก็อทแธม

สำหรับเรื่องราวในซีซัน 2 จะเริ่มจากการเล่าถึงความพยายามของดิ๊กที่ต้องการช่วยฝึกฝนให้กับ เรเชล การ์ และ เจสัน ให้พวกเขาสามารถใช้พลังของตนเองได้ รวมถึงการรวมกลุ่มก่อตั้งทีมไททันส์กลับมาอีกครั้ง

Spoil เรื่องราวบางส่วน

ในซีซันนี้ยังมีการเฉลยปมปริศนาในอดีต เมื่อครั้งที่ดิ๊กเพิ่งแยกตัวจากบรู๊ซเวย์นแล้วออกไปก่อตั้งทีมไททันส์ร่วมกับฮีโร่หนุ่มสาวรุ่นใหม่และอดีตผู้ช่วยฮีโร่ ซึ่งสมาชิกชุดแรกได้แก่ ดิ๊ก ฮอค ดอว์น ดอนน่า การ์ธ ทั้ง 5 คนได้สร้างวีรกรรมปราบเหล่าอธรรมไว้ไม่น้อย

แต่แล้วพวกเขาก็ได้ก่อความผิดพลาดบางอย่างในการจัดการกับศัตรูตัวฉกาจอย่าง เดธสโตรก นักฆ่ายอดฝีมืออันดับต้นๆของโลก ซึ่งเรื่องราวนี้ได้กลายเป็นตราบาปสำหรับดิ๊กและทีมไททันส์รุ่นแรกที่ทำให้พวกเขาต้องแตกทีมกันไป ก่อนที่จะเริ่มเรื่องราวซีซัน 1 และก่อนที่เขาจะได้พบกับพวกเขาเรเชลแล้วเริ่มตั้งทีมไททันส์ใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง

 

เรเชล หรือ เรเวน Raven เด็กสาววัยแรกรุ่นที่มีพลังลี้ลับพร้อมปริศนาดำมืดยากที่จะหยั่งถึง เธอใช้ชีวิตอยู่กับแม่เพียงลำพัง แต่แล้วแม่ของเธอกลับถูกคนฆ่า ทำให้เธอต้องหนีเอาตัวรอด ด้วยการนำทางจากพลังที่ทำให้เธอเดินทางมาขอความช่วยเหลือจาก ดิ๊ก ซึ่งการพบกันของคนทั้งสองก็นำไปสู่จุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งใหญ่

อันที่จริงแล้ว เรเชล เป็นลูกสาวของไทรกอน จอมปีศาจจากอีกมิติที่ต้องการข้ามเข้ามาในโลกมนุษย์ ทำให้เธอมีพลังพิเศษลี้ลับแฝงอยู่ ซึ่งในซีซันสองนี้พลังของเรเชลจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนยากที่จะควบคุมได้ ทำให้เธอต้องเป็นทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มาก

ด้านความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เธอยังคงรักและนับถือดิ๊กเสมือนเขาเป็นพ่อและอาจารย์ และก็รักคอรี่เสมือนเป็นพี่สาวที่พึ่งพาได้เสมอ และก็เริ่มผูกสัมพันธ์กับการ์มากขึ้น รวมถึงเปิดใจให้คนอื่นๆมากขึ้นด้วย

 

คอรี่ หรือ สตาร์ไฟเออร์ Starfire สาวผิวสีเข้ม ผู้มาพร้อมกับพลังเพลิงแรงสูงที่สามารถเผาศัตรูให้เป็นจุลได้ แท้จริงแล้วเธอคือเจ้าหญิงจากต่างดาวที่มีสิทธิขึ้นครองบัลลังก์ เธอเดินทางมาที่โลกมนุษย์เพื่อภารกิจหยุดยั้งไทรกอน

หลังจากเรื่องของเรเชลยุติลงแล้ว คอรี่ก็ตัดสินใจค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วแยกกับพวกของดิ๊ก ต่อมาดาวทามารันของเธอได้ส่งราชองครักษ์มาพาตัวกลับไป ระหว่างนั้นคอรี่ได้ไปร่วมทีมกับดอนน่า กระทั่งสถานการณ์ของทีมไททันส์ทั้งรุ่นแรกและรุ่นใหม่กลับตกอยู่ในวิกฤตอย่างหนัก เรเชลจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคอรี่ เธอจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาร่วมทีมกับอีกครั้ง

สิ่งที่ทำให้คอรี่ได้รับการยอมรับจากทีมไททันส์แทบทุกคนว่าเป็นคนที่พึ่งพาได้นั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของพลังพิเศษที่สามารถใช้เปลวเพลิงที่รุนแรงหรือทักษะในการต่อสู้ แต่เป็นเรื่องของจิตใจที่เที่ยงธรรม ความตรงไปตรงมา ความใจกว้างที่พร้อมรับฟังปัญหาของคนอื่น ทำให้เธอมีสถานะเป็นเสมือนพี่สาวและคุณแม่ที่เหล่าวัยรุ่นในทีมพึ่งพาได้เสมอ

สำหรับในต้นฉบับ Teen Titans โรบินและสตาร์ไฟเออร์จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เรียกว่าเป็นหนึ่งในคู่จิ้นหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้ ซึ่งในซีรีส์เองก็เลือกเดินตามนั้น แม้จะยังไม่ได้ชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วทั้งสองคนจะได้คู่กันหรือไม่ก็ตาม

 

การ์ หรือ บีสต์ Beast เด็กหนุ่มผู้ร่าเริง มีพลังพิเศษสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ป่าได้ ต่อมาเขาก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเรเชลโดยบังเอิญ แล้วก็เกิดเป็นมิตรภาพและความผูกพันดีๆให้กัน

ในภาพรวมแล้ว บทบาทของการ์ในซีซัน 2 เป็นเสมือนตัวกลางที่พยายามหาจุดประสานให้กับคนในทีมไททันส์ โดยเฉพาะความไม่พอใจของสมาชิกรุ่นใหม่ที่รู้สึกว่าโดนดิ๊กกีดกันบางอย่างไว้

อีกทั้งด้วยความร่าเริง มองโลกในแง่บวก เขาจึงได้รับความไว้วางใจจากดิ๊กและคนอื่นๆไม่น้อย เขายังได้รับหน้าที่ให้ช่วยดูแลคอร์นเนอร์ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ด้วย แต่ก็ต้องพบว่านี่เป็นภาระหนักหนาเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว

 

ดอว์น เกรนเจอร์ หรือ Dove

อดีตทีมไททันส์ และยังเป็นคู่หูของแฮงค์ แต่ในอดีตเคยมีความสัมพันธ์กับดิ๊ก ซึ่งลึกๆก็ยังมีความรู้สึกดีๆให้อยู่เสมอ ในซีซันสองนี้ เธอต้องเผชิญหน้ากับปัญหาร่วมกันของทีมไททันส์ แล้วก็ได้แยกทางเดินกับฮอค

แฮงค์ ฮอค หรือ Hawk

อดีตทีมไททันส์ เป็นคนรักของดอว์น โดยเนื้อแท้เป็นคนรักความยุติธรรม แต่ก็ชอบใช้ความรุนแรง ในซีซันนี้เขาพบว่าการอยู่กับดอว์น แม้ว่าพวกเขาจะรักกัน แต่ก็มีแต่ทำให้เกิดความวายป่วง จึงขอแยกทางกัน

ดอนน่า ทรอย หรือ Wonder Girl

อดีตทีมไททันส์ สาวสวยที่ทำงานด้านศิลปะ ตัวจริงคือ Wonder Girl อดีตผู้ช่วยของ ไดอ่าน่า หรือ Wonder Woman สมัยเป็นวัยรุ่นเคยได้ติดตามไดอาน่ามาร่วมงานกับแบทแมนและโรบินเป็นระยะ เป็นหญิงสาวที่ฉลาด ทรงพลัง มีพลังพิเศษคล้ายกับไดอาน่า มักห่วงใยดิ๊กเสมอ

ในซีซันสอง หลังจากดิ๊กตั้งทีมไททันส์ขึ้นใหม่ แล้วกลับมาเปิดใช้ไททันส์ทาวเวอร์ ดอนน่าเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงที่ดิ๊กตั้งทีมอีกครั้ง เพราะบาดแผลสาหัสอดีต แต่ก็ยอมกลับมาร่วมทีมเฉพาะกิจอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือดิ๊กจัดการปัญหาเรื่องของเดธสโตรก

 

เจสัน ท็อดด์ หรือ Robin คนที่ 2

เด็กหนุ่มที่เป็นโรบินคนปัจจุบันซึ่งเข้ามาแทนตำแหน่งของดิ๊กที่แยกตัวไป เขามีนิสัยใจร้อน ไม่กลัวอันตราย ชอบการใช้กำลังเพื่อปราบเหล่าร้าย มีดิ๊กเป็นไอดอล แต่ก็มีความเห็นขัดแย้งตรงข้ามกับดิ๊กพอสมควร

ในซีซันสอง เขาต้องการพิสูจน์ตนเองเพื่อให้ดิ๊กยอมรับ จึงนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด แล้วก็ทำให้เรื่องราวบานปลายยิ่งขึ้น

คอร์นเนอร์ คลาร์ก หรือ ซุปเปอร์บอย Superboy

เด็กหนุ่มปริศนาที่ตื่นขึ้นมาในหลอดแคปซูล เขาถูกโคลนนิ่งจากยีนส์ของซุปเปอร์แมนและเล็กซ์ลูเธอร์ ทำให้มีพลังของซุปเปอรแมนและสติปัญญาของลูเธอร์ แต่ด้านจิตใจและความคิดอ่านเป็นผ้าขาวเหมือนเด็กไม่กี่ขวบ การปรากฏตัวของเขาถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกหนึ่งของเรื่องราวที่ถูกขยายให้ยิ่งใหญ่ขึ้น

เดธสโตรก Deathstroke

นักฆ่าอันดับต้นๆของโลก เป็นอดีตทหารผ่านศึก เชี่ยวชาญการใช้อาวุธแทบทุกประเภท รับจ้างทำงานเพื่อเงินเป็นหลัก เขามีความแค้นแบบฝังรากลึกของทีมไททันส์ชนิดที่ถือว่าเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ไททันส์รุ่นแรกถูกยุบ

สำหรับในต้นฉบับคอมิค DC เดธสโตรกถือว่าเป็นตัวร้ายที่มีบทบาทและความสามารถอันดับต้นๆในบรรดาศัตรูของ Batman ซึ่งเคยต่อสู้ประมือกันหลายครั้ง

Titans SS2 สนุกไหม

Titans DC เป็นซีรีส์รวมพลฮีโร่วัยรุ่นที่ดัดแปลงมาจากคอมิคการ์ตูนชื่อดังอย่าง Teens Titans ที่เคยสร้างชื่อเสียงระเบิดไปทั่วโลกในการฉายทางช่อง Cartoonnetworks โดยคอนเซปต์คือการรวมกลุ่มฮีโร่รุ่นเยาว์ และเหล่าผู้ช่วยของฮีโร่มารวมกัน โดยมีผู้นำตัวหลักคือ โรบิน ในฐานะผู้นำทีม ระหว่างนั้นในเรื่องก็จะมีสมาชิกมาเข้าทีมมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยในฉบับการ์ตูน ตัวละครสำคัญในทีมชุดแรกก็คือ สตาร์ไฟเออร์ เรเวน บีสต์ ไซบอร์ก แล้วต่อมาก็จะมีตัวสำคัญอย่าง ซุปเปอร์บอย กับอีกหลายตัวละครมาเข้าร่วมทีม แล้วพัฒนากลายเป็น Young Justice ซึ่งสเกลของเรื่องราวก็จะจริงจังมากขึ้น รวมถึงเน้นไปที่การเติบโตของตัวละครในแบบ Coming of Age

สำหรับในฉบับซีรีส์ที่ฉายทาง Netflix ชุดนี้ มีการดัดแปลงและตีความ ไททันส์ ได้อย่างน่าสนใจ คือเป็นการเล่าเรื่องในแบบ ดาร์ก ดิบ เถื่อน +18 ไปจนถึงปมดราม่าเจาะลึกถึงจิตใจตัวละครเข้าไปถึงด้านมืดในแง่ปมทางจิตวิทยา ซึ่งในซีซันแรกที่ผ่านมา เรื่องจะเน้นความดาร์กและดราม่าไปที่ปมปริศนาของเรเชล หรือ เรเวน เป็นหลัก โดยมีดิ๊ก และ คอรี่ เป็นตัวละครสำคัญในการเดินเรื่อง และเสริมด้วยการ์ที่ทำให้เรื่องมีความซอฟท์ลงมาบ้าง จากนั้นเรื่องราวก็เริ่มขยายไปยังตัวละครอื่นๆในจักรวาลของ Batman Titans DC

แต่ใน Titans ซีซัน 2 แนวทางการเดินเรื่องก็เปลี่ยนแปลงไปอีก คือจะเน้นไปที่เรื่องราวความขัดแย้งภายในตัวละครหลักอย่าง ดิ๊ก กับความผิดและต้นเหตุที่ทำให้ไททันส์รุ่นแรกต้องแตกแยกกันไปคนละทาง เมื่อเรื่องดำเนินไประยะหนึ่ง เราจะได้เห็นว่าทุกตัวละครในเรื่องนี้ไม่มีใครที่ดีพร้อม ทุกคนมีความดำมืดในตัวเอง ตัวละครฮีโร่วัยรุ่นในเรื่องนี้เต็มไปด้วยสีเทาปะปนอยู่ ชนิดที่ว่าพวกเขาพร้อมจะกลายเป็นสีดำได้เลยถ้าหากว่าเลยเถิดออกไปอีกสักหน่อย

แต่ในเรื่องก็ไม่ได้เอาแต่ความดำมืดหรือดราม่าสายดาร์กตลอดเวลา เพราะเมื่อเริ่มเข้าถึงครึ่งทางของพาร์ท ตัวเรื่องเริ่มทำให้เราได้เห็น แสงสว่าง จากตัวละครใหม่ที่เปิดตัวมาได้ยอดเยี่ยมและเชื่อว่าหลายคนรอรับชม นั่นคือ คอร์นเนอร์ หรือ ซุปเปอร์บอย Super Boy ที่แม้ว่าตอนแรกจะดูเหมือนเป็นตัวละครที่มาพร้อมกับพลังที่กราดเกรี้ยว แต่ที่จริงแล้วตัวละครนี้กลับเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ที่มีจิตใจเหมือนเด็กน้อย ซึ่งเส้นเรื่องนี้ก็เป็นเสมือนภาพตัดกับเหล่าไททันส์ในเรื่องที่กำลังดาร์กลงเรื่อยๆ ซึ่งเส้นเรื่องของคอร์นเนอร์ก็จะชวนให้เราเอาใจช่วยว่า เขาจะพัฒนามาเป็นซุปเปอร์บอยที่ทรงพลังและเป็นอีกหนึ่งตัวแทนความหวังที่ใกล้เคียงกับซุปเปอร์แมนได้หรือไม่

ด้านการแสดง ในซีซันนี้ยังคงต้องชื่นชม Anna Diop ในบท คอรี่ หรือ สตาร์ไฟเออร์ ที่ซีซันนี้ทรงผมไม่ทำร้ายตัวละครแบบในซีซันแรกแล้ว (มองว่าเป็นความจงใจก็ได้ที่ทำทรงผมขัดตาคนดูในซีซันแรก) ซึ่งบทของคอรี่ก็น่าจะทำให้ตัวละครนี้มีแฟนคลับในฝั่งซีรีส์เพิ่มขึ้นอีก

มีอีกสองคนที่ต้องชมในแง่การแสดง นั่นคือ Brenton Thwaites ในบท ดิ๊ก เกรย์สัน ที่ยังคงทำได้ดีจากซีซันแรก รวมถึง Iain Glenn ในบท บรู๊ซ เวย์น ในช่วงสูงวัย ที่บางมุมดูเหมือนเป็นอัลเฟรดมากกว่า แต่ก็ถือว่าการแสดงของเขาในเรื่องนี้ทำได้ดีมาก ในขณะที่ทีมนักแสดงไททันส์คนอื่นๆก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน Connor Leslie ในบท ดอนน่า ทรอย เพียงแค่ใบหน้าและท่าทางก็มีเสน่ห์กับออร่าออกมาแบบโดดเด่นมาก

สำหรับตัวร้ายหลักในภาคนี้คือ เดธสโตรก Deathstroke นำแสดงโดย Esai Morales ก็ดูสมกับเป็นนักฆ่าเก๋าประสบการณ์ที่จัดจ้านโลกและเป็นยอดฝีมือทางด้านการต่อสู้และยุทธวิธีรบจริงๆ ชนิดที่ว่าสามารถดวล 1-1 แล้วสามารถใช้ประสบการณ์กับทักษะจนเอาชนะคนที่มีพลังพิเศษและเป็นลูกครึ่งเทพอย่าง ดอนน่า ทรอย ลงได้ ซึ่งที่จริงถ้าอ้างอิงบทของตัวละครเดธสโตรกจากในคอมิค เขาก็เก่งกาจในการต่อสู้และยุทธวิธีระดับที่เคยเอาชนะแบทแมนจากการต่อสู้แบบตัวต่อตัวมาแล้ว (แม้ว่าถ้านับทั้งหมด เดธสโตรจะแพ้เกือบทุกครั้งก็ตาม) อีกทั้งในคอมิค เดธสโตรกก็ยังเคยปะทะกับ Wonder Girl แล้วก็ใช้ทั้งเทคนิคและอาวุธจนเล่นงานอีกฝ่ายมาแล้วด้วย ตรงนี้เลยพออ้างอิงได้ว่า เดธสโตรก แม้พื้นฐานจะเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ก็เป็นอดีตทหารผ่านศึกที่เชี่ยวชาญในทักษะการสู้รบทุกชนิด แล้วได้ชื่อว่าเป็นนักฆ่าที่เก่งอันดับต้นๆในจักรวาล DC  รวมถึงเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่มีบทเด่นใน Batman เลยทีเดียว

แต่ข้อเสียของซีซันสองนี้ก็มี แถมสำคัญด้วย ข้อเสียอันแรกก็คือ การดำเนินเรื่องที่ “จะดราม่าไปไหน” ทำให้บางตอนเดินเรื่องช้าและยืดพอสมควร แต่ก็พอจะเข้าใจได้สำหรับคอนเซปต์ที่เน้นความดราม่าขนาดนี้ เพราะนี่คือเรื่องของ “ทีมซุปเปอร์ฮีโร่วัยรุ่น” ที่ตัวละครทั้งหมดยังขาดวุฒิภาวะและความคิดอ่านที่มากพอ แม้ว่าจะมีตัวละครประเภทฮีโร่พลังสมบูรณ์แบบอยู่ในเรื่องด้วย แต่จิตใจ ประสบการณ์ชีวิต ความคิดต่างๆของพวกเขาก็ยังเป็นเพียงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่เพิ่งจะกลายเป็นผู้ใหญ่ธรรมดา อย่างเช่น ดิ๊ก ซึ่งแม้ว่าจะเติบโตขึ้น แล้วพยายามสลัดคราบของโรบินที่อยู่ใต้เงาของแบทแมนผู้ยิ่งใหญ่ออกไป แต่ด้วยความที่ความคิดอ่านของก็ยังมีไม่มากพอ ก็ทำให้เขาตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องหลายครั้ง แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากเจตนาดีก็ตามที ซึ่งในเรื่องนี้เน้นประเด็นความไม่สมบูรณ์แบบหลายครั้งมาก แล้วตัวดิ๊กเองก็เป็นต้นเหตุของปมปัญหาใหญ่ในเรื่องด้วย จากการที่เขาไม่ยอมเปิดปากพูดความจริงหรือเปิดปากพูดในเรื่องที่ควรจะพูดมากพอ

ข้อเสียอีกจุดคือ ฉากต่อสู้ที่บางฉากยังดูทำไม่ถึงเท่าไหร่ คือพอดูก็รู้เลยว่างบประมาณในฉากสู้บางซีนใช้ทุนต่ำ (ทำใจ) ด้าน CG มีบางตอนดูลอยเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก อีกทั้งในภาพรวมก็ถือว่าทำฉากแอ็กชั่นแนวฮีโร่ได้ดีเท่าที่ได้งบสำหรับทำลงซีรีส์ได้แล้ว เพราะมีบางฉากต่อสู้ที่ถือว่าทำได้ดูดีกว่าในบางฉากแอ็กชั่นของซีรีส์ฮีโร่จากมาร์เวลอย่าง Daredevil ที่ค่อนข้างเด่นในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ

ส่วนจุดเสียอีกจุด ที่ถือว่าเป็นจุดด่างพร้อยของซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ นั่นคือซีนสำคัญฉากหนึ่งในตอนจบของซีซัน 2 หรือในตอนที่ 12 นี่เอง ซึ่งเพียงแค่ 4-5 นาทีในซีนนี้ กลับทำให้ความยอดเยี่ยมทุกอย่างของซีรีส์แทบจะพังทลายเลย

แต่ถ้ามองข้ามการหาทางลงยอดแย่ในตอนจบนี้ ถือว่านี่คือหนึ่งในซีรีส์แนวฮีโร่ที่ดีเยี่ยมและน่าดูที่สุดเรื่องหนึ่งครับ

Titans ss2 ตอนจบ สปอยล์ Spoil

ตอนจบของซีซันสอง ถูกวิจารณ์ว่าเป็นตอนจบที่แย่สุดๆ แล้วยังถึงขั้นทำลายภาพรวมที่ซีรีส์เล่ามาไปหมดเลย

อาจจะมีคำถามว่า แล้วตอนจบมันแย่ยังไง แย่ขนาดไหน?????

 

สปอยล์รุนแรงครับ 

หลังจากการต่อสู้ทั้งหมดจบสิ้นลง ดอนน่า ทรอย หรือ Wonder Girl หนึ่งในทีมไททันส์ กลับต้องมายอมพลีชีพเพื่อช่วยชีวิตเด็กๆที่กำลังจะถูกเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ล้มทับ ปรากฏว่าเธอถูกกระแสไฟฟ้าเข้าทำร้ายร่างกายจนสุดท้ายต้องจบชีวิตลง

ตอนจบของเรื่องนี้ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงใน IMDb และในหลายเว็บ ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนพอจะ “เข้าใจว่า” ทีมสร้างต้องการอะไรถึงเขียนบทออกมาแบบนี้ เพราะแนวทางที่ บทสรุปของฮีโร่ที่มีพลังสมบูรณ์กลับมาตายอย่างง่ายๆด้วยการพลีชีพช่วยชีวิตผู้คน ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีหลายเรื่องเคยทำมาแล้ว เรียกว่าเป็นการหักมุมหรือแอนตี้ไคลแมกซ์แบบหนึ่ง แต่เผอิญว่าตอนจบของไททันส์ซีซัน 2 ทำในส่วนที่ว่าออกมาได้ “มักง่าย” เกินไปหน่อย จนเราเชื่อลงได้ยากว่า Wonder Girl ที่มีศักยภาพทางกายระดับพอสู้กับ Super Boy จะมาพลาดท่าตายเพราะไฟช็อตได้

แม้ว่าก่อนหน้านี้ในเรื่องก็การปูบอกมาว่า ในเวอร์ชั่นซีรีส์ ร่างกายของฮีโร่สายลูกครึ่งเทพหรือพวกเผ่าพิเศษอย่าง ดอนน่า และ การ์ธ ก็ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน พวกเขาตายได้ง่ายๆเพียงเพราะถูกทำร้าย แบบที่การ์ธโดน แต่บทในตอนจบที่ทำให้ดอนน่าตายก็ยังดูไม่น่าเชื่อถืออยู่ดี

เรื่องก็เลยกลายเป็นว่า ซีรีส์ฮีโร่ที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งในยุคนี้ ที่แม้ว่าจะมีบางตอนดูน่าเบื่อหรือเดินเรื่องไม่ค่อยดีนักไปบ้าง แต่ภาพรวมก็ยังถือว่ายอดเยี่ยม แต่กลับต้องมาเสียหายอย่างรุนแรงเพราะ 5 นาทีท้ายของตอนจบเสียอย่างนั้น นับว่าเสียดาย แต่ถ้ามองข้ามไอ้ฉากที่ว่าในตอนท้ายเรื่องไป แล้วลองมองในมุมที่ว่าตัวละครฮีโร่ของอเมริกัน ไม่ว่าจะใน DC หรือ Marvel แทบไม่มีใครตายจริงๆ ทุกตัวมีโอกาสฟื้นคืนชีพได้ ถ้าทีมงานต้องการ ถ้าเช่นนั้นในซีซันถัดๆไป ดอนน่า อาจจะคืนชีพขึ้นมาก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่ ก็ถือว่านี่เป็นการปิดฉากบทสรุปของ Wonder Girl ที่แย่เอามากๆ แม้ว่าแนวคิดเรื่องการพลีชีพเพื่อช่วยเหลือผู้คนแล้วมาพลาดตายอย่างง่ายๆจะเป็นไอเดียที่โอเคอยู่บ้างก็ตาม

 

โดยสรุปภาพรวมแล้ว นี่ก็ยังคงเป็นซีรีส์แนวฮีโร่ที่ไปได้ไกลเกินกว่าแค่การเป็นซีรีส์ฮีโร่ทั่วไป ไม่เพียงแต่กล้าเล่าเรื่องในแบบโคตรดาร์ก โคตรดิบ 18+ แล้วยังกล้าที่จะเลือกเล่าเรื่องราวของฮีโร่ที่มีภาพลักษณ์ขาวสะอาดว่าแท้จริงแล้วทุกคนก็ยังเป็นเพียงมนุษย์ หรือแม้แต่ตัวละครลูกครึ่งเทพหรือมนุษย์ต่างดาว สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงคนที่มีทั้งเทพปีศาจร้ายอยู่ในตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเดินทางไหน หรือเมื่อทำผิดพลาดไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เราจะเลือกหนีหรือยอมรับมันแล้วเดินหน้าต่อครับ

สำหรับ Titans ss1-2 ฉายครบแล้วใน Netflix ซึ่งซีซัน 3 คาดว่าจะมาในต้นปีหน้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์แนวทีมฮีโร่สายดาร์กที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ

คลิกรับชมได้ที่นี่

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

imdb.com/Titans_Netflix

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!