รีวิว Vikings Valhala (Netflix) ความพยายามสานต่อตำนานไวกิ้ง ที่สู้ของเดิมไม่ได้
Vikings Valhala
สรุป
เรื่องต่อจากไวกิ้งราวร้อยกว่าปี ที่สนุก ย่อยง่าย ดูเพลิน แต่งานสร้างและทีมนักแสดงเทียบภาคเก่าแทบไม่ได้ เนื้อหาบิดประวัติศาสตร์ แปลงเพศและสีผิวตัวละคร ถ้าดูโดยไม่คิดมากก็ถือว่าทำได้กลางๆ
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- เดินเรื่องกระชับ รวดเร็ว ไม่เสียเวลาดราม่ายืดเยื้อ
- ไดอาล็อคตัวละครทำได้ดี
- นักแสดงบางคนเด่นกว่าคนอื่น
- เรื่องดูง่าย ย่อยง่าย
- มีพากย์ไทย
Cons
- แปลงเพศและสีผิวของตัวละคร
- ฉากสงครามบางฉากดูลอย เซฟคอส
- ไมค่อยอินกับตัวละครเอก เพราะปูบทมาน้อย
- ทีมนักแสดงหลักยังไม่ดีนัก
Vikings Valhala Netflix รีวิว เรื่องราวต่อจากซีรีส์ไวกิ้ง ราวหนึ่งร้อยปี หลังจากเรื่องของ แร็กนาร์ ล็อธบรอธ ได้กลายเป็นตำนานเล่าขาน ชาวไวกิ้งที่ต่างก็ถือว่าพวกตนเป็นลูกหลานของแร็กนาร์ก็ได้ขยายอิทธิพลออกไปตั้งรกรากในดินแดนต่างๆที่พวกเขาทำศึกพิชิตมาได้ บางส่วนได้ไปตั้งชุมชนอยู่ในอังกฤษใกล้กับลอนดอน เมืองหลวงของชาวอังกฤษ หรือพวกแซกซัน ซึ่งถูกเรียกว่าเขตเดนลอว์ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์พลิกผันที่ทำให้ชาวไวกิ้งเคียดแค้นต่อกษัตริย์อังกฤษและต้องการยกทัพใหญ่จากทั่วทุกทิศเพื่อแก้แค้น สงครามครั้งใหญ่ระหว่างชาวไวกิ้งและอังกฤษที่ห่างหายไปนานจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
ซีซันแรกมีทั้งหมด 8 ตอน มีพากย์ไทย รอรับชมซีซันสองต่อไปได้
ตัวอย่าง Vikings Valhala
Vikings Valhala เรื่องย่อ
โดยเรื่องในซีรีส์ชุดใหม่นี้จะเริ่มเล่าเรื่องราวตั้งแต่เหตุการณ์ การสังหารหมู่ในวันนักบุญไพร์ซ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เมื่อพระเจ้าเอลเธเรดที่ 2 กษัตริย์อังกฤษในยุคนั้นได้สั่งกวาดล้างชาวไวกิ้งที่อาศัยอยู่ในเกาะอังกฤษ หรือที่เรียกกันว่าเขตเดนส์ลอว์ ทั้งหมด เหตุการณ์นี้แพร่กระจายออกไปในหมู่ชาวไวกิ้งทั่วทุกสารทิศ ทำให้เกิดความแค้นที่ต้องการจะบุกโจมตีอังกฤษ กษัตริย์คนุต แห่งนอร์เวย์ผู้ยิ่งใหญ่ จึงได้เรียกระดมกำลังพลชาวไวกิ้งจากทั่วทุกดินแดนให้มาที่คัตเทกัต เมืองหลวงของนอร์เวย์ ครั้งใหญ่
เลฟ เอริคสัน หนึ่งในนักรบชาวไวกิ้งผู้กล้าหาญได้นำพรรคพวกออกจากเกาะกรีนแลนด์ ฝ่ามหาสมุทร แล้วมาถึงคัตเทกัต เพื่อตามหาศัตรูที่สร้างความแค้นให้กับเฟรย์ดิสน้องสาวของเขาที่ต้องการแก้แค้นด้วยตนเอง แต่ด้วยสถานการณ์ที่ซับซ้อน ก็ทำให้เขาต้องเข้าร่วมกองทัพใหญ่ของชาวไวกิ้งที่จะต้องทำศึกกับชาวแซกซันในอังกฤษจนได้
ผลงานสร้างโดย เจ็บ สจ้วต ซึ่งได้อิงเนื้อหาบางส่วนต่อมาจากซีรีส์ไวกิ้งที่สร้างโดย ไมเคิล เฮิร์ต ที่ได้มานั่งเป็นผู้อำนวยการสร้างในซีรีส์ชุดนี้ด้วย
Vikings Valhala ตัวละคร
ตัวละครหลักทั้งหมดมาจากบุคคลที่มีตัวตนอยู่ในตำนานและประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้ง ซึ่งมีบันทึกไว้
เลฟ เอริคสัน
นักรบไวกิ้ง ผู้มาจากเกาะกรีนแลนด์ บุตรชายของ เอริค เดอะเรด ออกเดินทางมาที่คัตเทกาเพื่อตามรอยนักรบไวกิ้งผู้นับถือคริสต์แล้วเป็นศัตรูของน้องสาว แต่หารู้ไม่ว่าอีกฝายกลับเป็นหนึ่งในกษัตริย์ของเหล่าไวกิ้ง ทำให้เขาต้องจับพลัดจับผลูเข้าร่วมในกองทัพของพระเจ้าคนุตในการทำศึกกับอังกฤษ
เฟรย์ดิส เอริสด็อตเตอร์
น้องสาวของเลฟ ต้องการตามล่าศัตรูที่ย่ำยีเธอ แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเกินคาดคิด ทำให้เธอต้องมาอยู่เป็นตัวประกันที่คัตเทกาในระหว่างที่พี่ชายของเธอร่วมทัพของพระเจ้าคนุตไปทำสงครามกับอังกฤษ ส่วนเธอก็มาอยู่ในความดูแลของยาร์ลฮาคอน เพื่อเรียนรู้วิถีของชาวไวกิ้งในนอร์เวย์
ฮารัลด์ ฮาดราด้า
น้องชายต่างมารดาของกษัตริย์โอลาฟ ในขณะที่พี่ชายอีกคนของเขาถูกสังหารในวันนักบุญไพร์ซตามคำสั่งของกษิตริย์เอลเธเรด นั่นทำให้เขาตัดสินใจที่จะร่วมทัพของพระเจ้าคนุตเพื่อแก้แค้น เขามีความสนใจในตัวเฟรย์ดิส และเป็นที่คนสนับสนุนเลฟให้ขึ้นมาเป็นกัปตันเรือและมีส่วนสำคัญในยุทธการบุกโจมตีเวสเซก
พระเจ้าคนุตมหราช
กษัตริย์ผู้พิชิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของชาวนอร์เวย์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ครองบัลลังก์ของสามประเทศคือ เดนมาร์ก นอร์เวย์ อังกฤษ เป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารที่เฉลียวฉลาดมาก
เอ็มม่า แห่งนอร์มังดี
ราชินีม่ายแห่งเวสเซก เธอเป็นลูกหลานของรอลโลแห่งนอร์มังดี อดีตนักรบไวกิ้งที่กลายมาเป็นกษัตริย์ฝรั่งเศส เป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดในทางการเมืองและแม้แต่กลยุทธ์ทางทหาร มีการตัดสินใจเป็นเลิศ เธอคอยช่วยค้ำบัลลังก์ให้กับกษัตริย์หนุ่มเอ็ดมันด์ ภายหลังได้อภิเษกอีกครั้งกับพระเจ้าคนุต
Vikings Valhala รีวิว
ซีรีส์เกี่ยวกับสงครามและตำนานของชาวไวกิ้ง รวมถึงสงครามอังกฤษ ที่เซตเรื่องราวให้เกิดขึ้นหลังจากซีรีส์ไวกิ้ง Vikings เป็นเวลา 100 กว่าปี
สำหรับ Vikings เป็นซีรีส์แนวดราม่า ประวัติศาสตร์ สงคราม บอกเล่าตำนานของชาวไวกิ้งเริ่มตั้งแต่ยุคของ แร็กนาร์ ล็อธบรอธ บรรพบุรุษนักรบไวกิ้งที่กลายเป็นตำนานในฐานะที่เป็นคนแรกที่เดินเรือออกจากนอร์เวย์ไปทางตะวันตกแล้วค้นพบเกาะอังกฤษซึ่งเวลานั้นอยู่ในการครองของหลายอาณาจักร แล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวไวกิ้งรุกรานเกาะอังกฤษและดินแดนต่างๆ ในยุโรป ซึ่งเรื่องราวถูกบอกเล่าไปจนถึงยุคของ ไอวาร์ เดอะโบนเลส ลูกชายคนเล็กของแร็กนาร์ที่เป็นแม่ทัพไวกิ้งที่สร้างความหวาดกลัวให้คนอังกฤษ ซึ่งหลังจากออกฉายครั้งแรกทางช่อง History Channel ซีรีส์ไวกิ้งก็ได้รับคำชม คำวิจารณ์ที่ดีเยี่ยมและมีแฟนๆ ติดตามกันมาก ซึ่งก็เพิ่งจบไปเมื่อปี 2019 ก่อนหลังจากฉายมานาน 6 ซีซัน
ส่วนไวกิ้ง วัลฮาลา ก็ได้ผู้สร้างจากซีรีส์ชุดเดิมคือ ไมเคิล เฮิร์ต มารับบทเป็นผู้อำนวยการสร้างแล้วได้ เจ็บ สจ๊วต มาเป็นผู้กำกับ จึงเหมือนต้องการต่อยอดความสำเร็จจากไวกิ้งชุดเดิม แล้วในเรื่องก็จะมีการอิงชื่อของตัวละครในซีรีส์ชุดนั้นอยู่ตลอดในฐานะของตำนาน แล้วยังเป็นการขายให้กับบรรดาแฟนคลับของไวกิ้งไปด้วย
แต่เชื่อเลยว่า แฟนๆ ไวกิ้งดูเรื่องนี้แล้วคงไม่ปลื้มเท่าไรนัก เพราะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับไวกิ้งแล้วจะพบว่าไวกิ้ง วัลฮัลลา มีข้อเสีย จุดด้อยหลายจุดเอามากๆ ที่รับรองว่าคนดูหลายคนคงร้องอีหยังวะตั้งแต่ตอนแรกเลย
โดยเฉพาะในบรรดาข้อเสียทั้งหมดนั้น มีอยู่จุดหนึ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น นั่นคือการแปลงเพศและสีผิวของตัวละคร ยาร์ลฮาร์คอน ซึ่งเป็นผู้นำทัพไวกิงคนหนึ่งที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ตรงนี้เป็นคำถามตัวโตๆที่เชื่อว่าคนดูซีรีส์จำนวนมากน่าจะไม่พอใจ โดยเฉพาะถ้าเป็นชาวยุโรปเหนือซึ่งเป็นลูกหลานของชาวไวกิ้งมาดูเรื่องนี้ ว่าทำไมต้องแปลงกษัตริย์ไวกิงคนหนึ่งที่มีผลงานและมีตัวตนอยู่ในตำนานให้กลายเป็นผู้หญิงผิวดำ เชื่อเลยว่าได้มีกระแสในทำรองโจมตีพวก Woke ที่กำลังเข้ามาอยู่ในหลายวงการโดยเฉพาะในฮอลลีวูด
กล่าวคืออะไรที่สามารถดัดแปลงได้เราก็สามารถทำให้มันออกมาเหมาะสมได้ แต่นี่เป็นการดัดแปลงที่ทำออกมาแล้วไม่เข้าท่าเท่าไรนัก ถึงแม้ว่าในเรื่องเองก็จะมีการพูดถึง “การเปิดรับความเป็นไปได้” ซึ่งออกมาจากปากของตัวละครฮาคอนนี้เอง
จุดด้อยอื่นๆก็มีอยู่ เช่น ความลอยของฉากรบในบางฉาก ที่ดูแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าฉากหลังนี่มันฉากชัดๆ เข้าใจว่าเพราะต้องการเซฟงบประมาณ แล้วใช้เทคนิคการตัดต่อเข้ามาช่วย เลยทำให้ฉากสงครามบางฉากดูเฟคไปสักหน่อยถ้าเป็นคนที่ดูหนังและซีรีส์แนวสงครามแบบนี้มาเยอะๆ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบซีรีส์ไวกิ้งชุดก่อนมาคงอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบในมุมนี้
นอกจากนี้ทีมนักแสดงหลัก หากเปรียบเทียบกับ ไวกิ้งชุดเดิม ต้องถือว่าแคสติ้งมายังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ออร่านักแสดงและทักษะการแสดงยังสู้นักแสดงหลักของไวกิ้งไม่ได้ คือในขณะที่นักแสดงจากไวกิ้งชุดเดิมส่วนมากมาจากนักแสดงที่ไม่เป็นที่รู้จักในฮอลลีวูด แต่พวกเขาแทบจะแจ้งเกิดกันยกชุด โดยเฉพาะนักแสดงในบท แร็กนาร์ โลกิ ลาเกอร์ธา บียอร์น ไอวาร์ ฯลฯ ที่เรียกว่าสร้างภาพจำให้ตัวละครเหล่านั้นไว้อย่างน่าทึ่ง แต่นักแสดงที่รับบทตัวเอกของวัลฮัลลาในบท เลฟ เฟรย์ดิส และ ฮารัลด์ หรือแม้แต่ตัวละครที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์ช่วงนั้นก็คือ พระเจ้าคนุตมหาราช ทั้งหมดยังทำได้ไม่ดีหรือสร้างความน่าจดจำได้ขนาดนั้น เพียงแต่เรื่องนี้ยังพอจะพัฒนาได้ในซีซีนหลังๆ คงต้องรอดูกันต่อไป
แต่ก็ไม่ได้แปลว่านักแสดงแย่ทุกคน เพราะมีบางคนที่ก็ทำได้เกินคาด โดยเฉพาะนักแสดงที่รับบทตัวละครฝ่ายอังกฤษกลับทำได้โดดเด่นและมีออร่าสตาร์มากกว่า โดยเฉพาะนักแสดงสาว ลอร่า เบอร์ลิน ที่มารับบทราชินี เอ็มม่า แห่งนอร์มังดี ถือว่าเธอทำได้ดีเกินคาดมาก เพียงแค่กล้องถ่ายไปที่เธอก็ทำให้จับสายตาคนดูได้แล้ว ซึ่งตามเนื้อเรื่องเธอก็จะมีบทไปอีกยาวๆด้วย
จุดด้อยอีกข้อคือ การปูบทตัวละครหลักเพื่อให้เรารู้สึกอิน ยังทำได้ไม่ดี โดยเฉพาะบทของเลฟ ที่ควรจะปูมาให้เป็นพระเอกที่เราเอาใจช่วย แต่เข้าใจว่าเพราะทีมสร้างต้องการพาเรื่องเดินหน้าเข้าประเด็นของสงครามให้เร็วที่สุด เราเลยไม่ได้มีโอกาสติดตามเส้นทางชีวิตของเลฟก่อนที่จะเข้ามาร่วมสร้างตำนานในสงคราม
ถึงแม้จะมีข้อเสียและจุดให้ติเยอะมาก แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย เพราะจุดเด่นที่น่าสนใจก็มีอยู่ โดยเฉพาะการเดินเรื่องที่กระชับฉับไว เรียกว่าสวนทางกับไวกิ้งชุดก่อนที่เน้นความดราม่า โชว์บรรยากาศของโลกยุคโบราณ วัฒนธรรมของพวกไวกิ้ง แต่เรื่องนี้ไม่เน้นตรงนั้นมากนัก แล้วพยายามพาเรื่องราวให้เดินไปข้างหน้า เพื่อเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักโดยเฉพาะการทำสงครามให้เร็วที่สุด ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกทิศทางหนึ่งที่น่าสนใจดี รวมถึงยุทธการสงครามที่แม้ว่าจะไม่ได้มีฉากรบใหญ่มากนัก คือทั้ง 8 ตอนในซีซันแรกมีฉากรบขนาดใหญ่แค่สองฉาก นอกนั้นเป็นฉากรบย่อยๆ แต่การปูเรื่องเพื่อไปสู่ฉากสงครามทำได้สนุก ดูเพลิน รวมถึงฉากการเมืองการเจรจาก็ยังทำได้ดี มีบทไดอาล็อกที่เฉือนคมกันไปมา และชวนให้เดาทางยากด้วย
แล้วความคาดหวังอีกอย่างสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นก็คือ บทของพระเจ้าคนุตมหาราช ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ผู้พิชิตและปกครองสามประเทศ คือ เดนมาร์ก นอร์เวย์ และ อังกฤษ ซึ่งแม้ว่าตัวนักแสดงคือ แบรดลีย์ ฟรีการ์ด ยังถ่ายทอดออกมาไม่ค่อยดีนักในช่วงแรก แต่เมื่อดูๆไปก็พอจะเข้าใจว่าทำไมถึงแคสติ้งเขามารับบทนี้ อาจเพราะทีมสร้างต้องการนักแสดงที่สามารถเก็บอารมณ์และการแสดงสีหน้าท่าทางให้ดูออกมากลางๆ ไม่ได้ต้องการพลังการแสดงในแบบดราม่าหรือเล่นได้ทะลุอะไรมากมาย เพราะไม่เช่นนั้นบทนี้จะเป็นการขโมยซีนตัวละครหลักคนอื่นไป
Vikings Valhala สนุกและดีไหม
สนุก ดูเพลิน ย่อยง่าย แต่งานสร้างและแนวทางหลายอย่างก็ยังไม่ดีพอกับความคาดหวังและที่ควรจะเป็นครับ คือถ้าใครคาดหวังว่าจะดูซีรีส์สงครามไวกิ้งที่เนื้อหาเข้มข้นทั้งเรื่องการเมือง การเจรจา และฉากรบ เรื่องนี้จัดว่าตอบโจทย์ในระดับหนึ่ง แม้ว่าฉากรบจะดูโลว์คอสไปบ้าง แต่ถ้าคาดหวังความสมจริงหรือการอิงเนื้อหาประวัติศาสตร์ ขอให้เตะมันออกไปก่อนครับ ซึ่งก็หวังว่าในซีซันสองจะทำออกมาได้ดีขึ้น
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference